manchesterunited
|  
 ตะกร้าสินค้า (0)





   พีระมิดอียิปต์ (The Pyramids of Egypt) พีระมิดอียิปต์เป็นสิ่งมหัสจรรย์ยุคโบราณเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงสภาพเกือบสมบูรณ์เหมือนใน อดีต ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ณ เมืองกีเซ (Giza) ตอนเหนือของกรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ ประกอบไปด้วยพีระมิดใหญ่ 3 องค์ คือ พีระมิดที่บรรจุพระศพของฟาโรห ์คีออปส์ (Cheops) คีเฟรน (Chephren) และไมเซอริมุส (Mycerimus) พีระมิดคีออปส์ เป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นมาเมื่อประมาณ 3500 ปีก่อนคริสต์ศักราช เดิมสูงถึง 481 ฟุต แต่ปัจจุบันลดลงเหลือ 450 ฟุต ฐานของพีระมิดครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 32.5 ไร่ ( 13 เอเคอร์ ) สร้างขึ้นโดยการใช้หินทรายตัดเป็นแท่งสี่เหลี่ยมก้อนละประมาณ 2.5 ตัน ถึง 30 ตัน โดยใช้หินทั้งหมดกว่า 2.3 ล้านก้อน ใช้แรงงานทาสและกรรมกรในการก่อสร้าง ประมาณ 100,000 คน ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 20 ปี สำหรับพีระมิดคีเฟรนหรือพีระมิดรูปสฟิงซ์ซึ่งเป็นคนครึ่งราชสีห์ โดยมีใบหน้าเป็นคนมีตัวเป็นราชสีห์อยู่ในท่าหมอบเฝ้าหน้า พีระมิดคีออปส์สูงประมาณ 66 ฟุต

 

 

 

 

 

ที่สุดในโลกด้านสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติ

สัตว์บกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก เสือซีต้า
สัตว์ที่หนังหนาที่สุดในโลก แรด
นกที่บินเร็วที่สุดในโลก นกอินทรีย์
นกที่ตาไวที่สุดในโลก แร้ง
นกที่มองเห็นได้ไกลที่สุดในโลก เหยี่ยว
นกที่ใหญ่ที่สุดในโลก นกกระจอกเทศ
นกที่ตัวเล็กที่สุดในโลก นกฮัมมิ่ง
สัตว์ที่ถือว่ามีพลังอำนาจมากที ่สุดในโลก สิงโต
สัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ช้าง
สัตว์ที่คอย่าวที่สุดในโลก ยีราฟ
สัตว์ที่อายุยืนที่สุดในโลก เต่า
สัตว์ป่าที่สายตาสั้นและดุร้ ายมากที่สุดในโลก แรด
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใหญ่ที่ สุดในโลก ปลาวาฬ
สัตว์ที่จมูกใหญ่ที่สุดในโลก ช้าง
สัตว์ที่มีมากที่สุดในโลก แมลง
ไก่ที่ไข่ดกที่สุดในโลก ไก่เล็กฮอร์น
นกที่อายุยืนที่สุดในโลก กา
งูที่พิษร้ายที่สุดในโลก งูจงอาง
ลิงที่คล้ายคนมากที่สุดในโลก ลิงกอริลลา,ลิงอุรังตุกัง
ต้นหญ้าที่สูงที่สุดในโลก ต้นไผ่
ไม้ที่ดีที่สุดในโลก ไม้สัก
สิ่งที่กว้างที่สุดในโลก จักรวาล
สิ่งที่เล็กที่สุดในโลก อิเลคตรอน
ดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุด ดาวพฤหัส
ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลกมากที่ สุด ดาวศุกร์
ดาวที่มีแสงสว่างมากที่สุด ดาวซิริอุส
ธาตุที่เบาที่สุดในโลก ไฮโดรเจน
ก๊าซที่หนักที่สุด ก๊าซเรดอน
ธาตุที่มีมากที่สุดในโลก ออกซิเจน
ธาตุที่มีราคาแพงที่สุดในโลก เรเดียม
ประเทศที่ผลิตระเบิดปรมณูเป็ นชาติแรก

สหรัฐอมเริกา

ที่สุดในโลกด้านสิ่งก่อสร้าง
เขื่อนที่สูงที่สุดในโลก เขื่อนโบลเดอร์ฮูเวอร์
ในสหรัฐอเมริกา
น้ำพุที่สูงที่สุดในโลก น้ำพุที่สวนสาธารณะ
เยลโลว์สโตน ในสหรัฐอเมริกา
น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก น้ำตกแอลเจลไน
สูง 3212 ฟุต
น้ำตกที่สวยที่สุดในโลก น้ำตกไนแองการา
อยู่ระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ
อุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวที่สุดในโลก อุโมงค์แมนฮัตตัน ยาว 2700 ฟุต
อยู่ในสหรัฐอเมริกา
อุโมงค์ในภูเขาที่ยาวที่สุ ดในโลก อุโมงซิมปลอน ในเทือกเขาแอลป์
ยาว 2145 ไมล์
วังที่ใหญ่ที่สุดในโลก วังวาติกัน ในกรุงโรม
พระราชวังที่สวยงามที่สุดในโลก พระราชวังแวร์ซายส์ ในกรุงปารีส
พระราชวังที่ตั้งอยู่สูงที่สุ ดในโลก พระราชวังโปลาทา ในธิเบต
สูง 11830 ฟุต
พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก British Museum ในอังกฤษ
สิ่งก่อสร้างที่สวยที่สุดในโลก ทัชมาฮาล ในอินเดีย
กำแพงที่ยาวที่สุดในโลก กำแพงเมืองจีน ยาว 1400 ไมล์
สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุกในโลก ปิรามิดที่เมืองเกิซย์ อียิปต์
รัฐสภาที่งามที่สุดในโลก รัฐสภาแห่งขาติฮังการี กรุงบูดาเปสต์
อนุสาวรีย์ที่สวยงามที่สุดในโลก อนุสาวรีย์ทัชมาฮาล ในเมืองอัคระ
ประเทศอินเดีย
สุสานที่ใหญ่ที่สุดในโลก สุสานของ ดร.ซุนยัดเซน
หอประชุมที่ใหญ่ที่สุดในโลก หอประชุมองค์การสหประชาชาติ
กรุงนิวยอร์ค อเมริกา
หอคอยที่สูงที่สุดในโลก หอเอฟเฟล หอโตเกียว ประเทศญี่ปุน
หอดูดาวที่ใหญ่ที่สุดในโลก หอปาโลมาร์ ในสหรัฐอเมริกา
หอนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก หอนาฬิกาบิกเบล กรุงลอนดอน
หอที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุ ดในโลก
หอเอนที่เมืองปีซ่า ประเทศอิตาลี

 

 

 

 

ที่สุดในโลกด้านประเทศหรืออารยธรรม

ทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทวีปเอเซีย

ทวีปที่เล็กที่สุดในโลก ทวีปออสเตรเลีย
ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ัรุสเซีย
เนื้อที่ 47,800,500 ตารางไมล์
ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก โมนาโค
เนื้อที่ 0.50 ตารางไมล์
ประเทศที่มีประชากรมากที่สุ ดในโลก สาธารณรัฐประชาชนจีน
1228 ล้านคน ในปี 1994
ประเทศที่มีประชากรน้อยที่สุ ดในโลก วาติกัน
ประมาณ 800 คน
มหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก แปซิฟิค
มหาสมุทรที่เล็กที่สุดในโลก อาร์คติก
ทวีปที่ร้อนที่สุดในโลก อัฟริกา
ทวีปที่เย็นที่สุดในโลก แอนตาร์ติก
ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะเลจีน
ทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะเลสาปแคสเปียน ในรุสเซีย
ทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุ ดในโลก ทะเลสาปสุพีเรีย
ในสหรัฐอเมริกา
ทะเลสาปน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุ ดในโลก ทะเลสาปแคสเปียน ในรุสเซีย
ทะเลที่ลึกที่สุดในโลก ทะเลสาปไบคาล ในรุสเซีย
ทะเลที่อยู่สูงที่สุดในโลก ทะเลสาปอัสกาลชิน ในธิเบต
แม่น้ำที่กว้างที่สุดในโลก แม่น้ำอเมซอน
ในทวีปอเมริกาใต้ 270 ไมล์
แม่น้ำที่เกิดอุทกภัยมากที่สุ ดในโลก แม่น้ำฮวงโห ในประเทศจีน
คาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาบสมุทรอาหรับ
คลองที่ยาวที่สุดในโลก คลองยุ่นฮ้อ ยาว 700 ไมล์
คลองที่สำคัญที่สุดในโลก คลองสุเอช ในประเทศอียิปต์
เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เกาะกรีนแลนด์
840,000 ตารางไมล์
แก่งบ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปากน้ำคงคา ในประเทศอินเดีย
เทือกเขาที่สูงที่สุดในโลก เทือกเขาหิมาลัย ชื่อเอเวอเรสต์
สูง 29142 ฟุต
เทือกเขาที่ยาวที่สุดในโลก เทือกเขาแอนดิส
ที่ราบที่สูงที่สุดในโลก ที่ราบปาร์มี ประเทศธิเบต
ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภูเขาไฟโมนนาลาว ในฮาวาย
สูง 13675 ฟุต
ภูเขาไฟที่สวยที่สุดในโลก ภูเขาไฟฟูจิยามา ในญี่ปุ่น
สูง 12389 ฟุต
ประเทศที่มีภูเขาไฟมากที่สุ ดในโลก ประเทศอินโดนีเซีย
ประเทศที่เป็นหลังคาโลก ประเทศธิเบต
ประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวมากที่ สุดในโลก ประเทศญี่ปุ่น
ประเทศที่มีเกาะมากที่สุดในโลก ประเทศฟิลิปปินส์
7100 เกาะ
ทวีปที่มีคนผิวดำมากที่สุดในโลก อัฟริกา
มหาสุมทรที่มีเรือสินค้าผ่านมากที่สุดในโลก มหาสมุทรแอตแลนติก
ทวีปที่มีคนผิวเหลืองมากที่สุดในโลก เอเซีย

 

 

 

 

 

 

                                คน ที่เตี้ยที่สุดในโลกคนใหม่ ล่าสุดกำลังจะได้รับการบันทึกลงหนังสือกินเนส โดยมีส่วนสูงวัดจาดศีรษะจรดปลายเท้าเพียง 24 นิ้ว หรือ 61 เซนติเมตร

นายจัน เรย์ บาลาวิง หนุ่มฟิลิปปินส์ รายนี้เกิดที่เมืองซินดังกาน จังหวัดแฒบวงก้า เดล นอร์ท จะได้รับการบันทึกอย่างเป็นทางการจากหนังสือกินเนส ให้เป็นคนที่เตี้ยที่สุดในโลกในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่เขามีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์

โดยบา ลาวิง มีส่วนสูงวัดจากศีรษะจรดปลายเท้าเพียง 24 นิ้ว หรือ 61 เซนติเมตร คุณแม่ของหนุ่มเตี้ยที่สุดในโลกรายนี้ให้สัมภาณ์ว่า เธอรู้สึกมีความสุขมากๆที่ลูกชายกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

สำหรับเจ้าของสถิติโลกคนที่เตี้ยที่สุดในโลกคนปัจจุบัน คือนาย คาเจดร้า ธับปา มาการ์ ชาวเนปาล ซึ่งมีความสูง 26.4 นิ้ว

 

 

 

 

 

 

นครวัด

                           สิ่งมหัศจรรย์ของโลกซึ่งเป็นศิลปวัตถุที่สร้างด้วยหินก้อนมหึมา วิจิตรงดงามด้วยลวดลายแกะสลัก พิศดารยิ่งใหญ่จนไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ ที่จริงควรจะเป็นเป็นเทวดาเนรมิตมากกว่า สิ่งมหัศจรรย์ที่จะกล่าวถึงคือ นครวัด - นครธม ปราสาทหินยิ่งใหญ่ เก่าแก่ที่สุดของขอม นครทั้งสองนี้ นครธมสร้างขึ้นก่อนนครวัด เมื่อประมาณ ค.ศ. 1345 - 1412 ซึ่งเป็นสมัยของพระเจ้าสุริยะวรรมันที่ 1 และที่ 2 กษัตริย์ผู้ทรงอำนาจของขอม

นครธม มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 25,000 ไร่ ประกอบด้วย ประกอบด้วยประสาทกระจัดกระจายอยู่ในป่าไม่ต่ำกว่า 600 แห่ง เฉพาะ นครธมเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีคูเมือง กำแพงป้อมปราการสวยงาม แข็งแรง สร้างด้วยหิน เนื้อที่ประมาณ 5,500 ไร่ เป็นเทวสถาน และพุทธสถานในบริเวณเดียวกัน

 

 

 

 

 

 



                     Yai เจ้าใหญ่ คือ จระเข้ ที่ ใหญ่ที่สุดในโลก เจ้าใหญ่เป็นจระเข้เลี้ยง ของ ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ

โดยเจ้าใหญ่ได้ถูกบันทึกลงในกินเน็สบุ๊กว่าเป็น จระเข้ ที่ ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2000และเป็นวันฉลอง

วันเกิดปีที่ 28 ของมันด้วยไก่สด และปลา เจ้าใหญ่เป็นเจ้าของสัดส่วน ความยาว 6 เมตร น้ำหนัก 1,114 กิโลกรัม

 

 

ที่สุดของโลก

 

หอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก หอสมุดแห่งรัฐสภาอเมริกัน
วอชิงตัน
ประเทศที่มีโบราณวัตถุมากที่สุดในโลก กรุงโรม อิตาลี
พระพุทธรูปนั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก พระพุทธโคดม วัดไผ่โรงวัว
สุพรรณบุรี
โบสถ์ที่มียอดสูงที่สุดในโลก โบสถ์อูม เมืองบาเดนว
ูเดมเบอร์  เยอรมัน
ระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระฆังที่วังเครมลิน รุสเซีย
สูง 26 ฟุต หนัก 198 ตัน
เจดีย์ที่สวยที่สุดในโลก เจดีย์ชะเวดากอง  พม่า
วัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก นครวัด ประเทศกัมพูชา
402 เอเคอร์
ศาสนาที่มีคนนับถือมากที่สุดในโลก ศาสนาคริสต์
สะพานช่วงเดียวที่ยาวที่สุดในโลก สะพานโกลเดนเกท
เมืองซานฟรานซิสโก
สะพานหลายช่วงที่ยาวที่สุดในโลก สะพานซานฟรานซิสโก-โอคแลนด์
ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ท่าเรือนิวยอร์ค
ทางรถไฟสายที่ยาวที่สุดในโลก สายทรานไซบีเรีย
ยาว 8760 ก.ม ประเทศรัสเซีย
สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก สนามบินจอห์นเอฟเคเนดี้
นิวยอร์ค อเมริกา
ประเทศที่มีทะเลมากที่สุดในโลก ฟินแลนด์
ประเทศที่ไม่มีทางรถไฟเลย ประเทศลาว
เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โตเกียว 16 ล้านเศษ  1994
ประเทศที่มีคลองมากที่สุดในโลก อิตาลี
ประเทศที่มีสายการบินมากที่สุดในโลก สหรัฐอเมริกา
ประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิดศาสนามากที่สุด อินเดีย
ภาษที่ใช้มากที่สุดในโลก ภาษาอังกฤษ
โรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก De Witt High School
เมืองนิวยอร์ค
มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มหาวิทยาลัยโบลอกยา อิตาลี
ศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดในโลก ศาสตราจารย์
William Roman อายุ 22 ปี
วิชาดาราศาสตร์
ประเทศที่ส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศเป็นครั้งแรก รัสเซีย ดางเทียมสปุตนิค
มนุษย์อวกาศคนแรกของโลก ยูริกา กากูริน ชาวรัสเซีย
มนุษย์คนแรกที่เหยียบดวงจันทร์ นีล อาร์มสตอง ชาวอเมริกัน
เมืองที่มีคลองมากที่สุดในโลก เมืองเวนิส อิตาลี
ประเทศที่ทำเหล้าองุ่นมากที่สุดในโลก ฝรั่งเศส
ประเทศที่ผลิตเบียร์มากที่สุดในโลก เยอรมัน
ประเทศที่ผลิตยางพารามากที่สุดในโลก มาเลเซีย
ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก บรูไน
แหล่งการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองลาสเวกัส อเมริกา
ประเทศที่มีแม่เหล็กมากที่สุดในโลก สวีเดน
ประเทศที่ผลิตเหล็กกล้ามากที่สุดในโลก สหรัฐอเมริกา
ประเทศที่มีถ่านหินมากที่สุดในโลก สหรัฐอเมริกา
ประเทศที่มีทองคำขาวมากที่สุดในโลก รัสเซีย
ประเทศที่ปลูกข้าวมากที่สุดในโลก ประเทศจีน
ประเทศที่เลี้ยงหมูมากที่สุดในโลก ประเทศจีน
ประเทศที่ปลูกส้มมากที่สุดมากที่สุดในโลก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย อเมริกา
ประเทศที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในโลก บราซิล
เมืองที่มีการทอผ้ามากที่สุดในโลก เมืองแมนเชสเตอร์ อังกฤษ
ประเทศที่มีภาษาพูดมากที่สุดในโกล อินเดีย 227 ภาษา
ประเทศที่มีการปกครองแบบประชาธิปไตย
เก่าแก่ที่สุด
ประเทศกรีซ
ประเทศที่เคยมีอาณานิคมมากที่สุดในโลก อังกฤษ
สงครามที่รบกันยาวนานที่สุดในโลก สงครามครูเสด
กบฎที่มีคนตายมากที่สุดในโลก กบฎไท้เผ็ง ปรเทศจีน
มีคนตาย 20 ล้านคน
ประเทศที่มีจิงโจ้มากที่สุดในโลก ออสเตรเลีย
ประเทศที่ทีการเลี้ยงไกมากที่สุดในโลก เดนมาร์ก
ประเทศที่มีเกาะมากที่สุดในโลก อินโดนีเซีย
ประเทศที่มีม้ามากที่สุดในโลก รัสเซีย
ประเทศที่มีวัวมากที่สุดในโลก อินเดีย
ประเทศที่มีการจับปลามากที่สุดในโลก ญี่ปุน
แหล่งที่มีจระเข้มากที่สุดในโลก อาฟริกา
ประเทศที่ปลูกพริกไทมากที่สุดในโลก อินโดนีเซีย
ประเทศที่มีปรอทมากที่สุดในโลก สเปน

 

 

 

 

 

  

สวนสยาม

     Guinness World Records ร่วมกับสมาคมสวนน้ำโลก จัดพิธีมอบหนังสือรับรอง “ทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ให้แก่ ทะเล-กรุงเทพฯ สวนสยาม โดย คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการรับมอบ

     ทะเล-กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในโครงการของสยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม โดยคุณไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทสยามพาร์คซิตี้ จำกัด เป็นผู้ริเริ่ม และได้เรียนเชิญคณะสถาปนิกและวิศวกรชาวไทย ผู้มีความเชี่ยวชาญในวิชาการแขนงต่างๆ เดินทางไปศึกษาทะเลเทียมจากนานาประเทศ นำมาปรับปรุงและประยุกต์ สร้างเป็นทะเลเทียมขนาด 13,600 ตารางเมตร (146,393 ตารางฟุต) สามารถรองรับผู้ใช้บริการในทะเลเทียมพร้อมกันได้ถึง 13,000 คน

     ทะเล-กรุงเทพฯ เปิดบริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2523 ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของวงการท่องเที่ยวไทย ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยีการทำคลื่น ซึ่งสามารถเลือกรูปแบบ ความถี่ และความสูงของคลื่นได้ตามต้องการ , ระบบการกรองน้ำที่สมบูรณ์แบบ เพื่อให้ได้น้ำที่ใสสะอาด ปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ , การปรับแต่งภูมิทัศน์ เพื่อความร่มรื่นและสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อน รวมถึงการบริการความปลอดภัยด้วยทีมไลฟ์การ์ด ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิต American Red Cross จากสหรัฐอเมริกา ทำให้ทะเล-กรุงเทพฯ ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมต่อเนื่องตลอดมาจนปัจจุบัน

 

 

 


หญิงสูงที่สุดในอินเดียกับลูกที่จะสูงที่สุดในโลก....หรือไม่???
 
                นางสเวตลานา ซิงห์ (Svetlana Singh)วัย 21 ปี
หญิงสาวที่สูงที่สุดในประเทศอินเดีย และเป็นอันดับ 3 ของหญิงที่สูงที่สุดของโลก

โดยสูงถึง 2.18m (7ft 2in)  กับเด็กชายการัน ลูกชายวัย 10 เดือน
ซึ่งเธอต้องป้อนนมและอาหารถึงวันละ 20 ครั้งที่บ้านในเมืองมีรุต ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่30เมษายน
โดยนางสเวตลานาได้แต่หวังว่า ลูกชายคนนี้ ซึ่งปัจจุบันสูง 100.5 เซนติเมตร น้ำหนัก 24 กิโลกรัม
จะเติบโตมาเป็นคนที่สูงที่สุดในโลก โดยโกรันเกิดมาด้วยความสูงแรกเกิดถึง 67 เซนติเมตร
ซึ่งเป็นความสูงของเด็กทั่วไปขณะอายุ 2 ขวบ

เมื่อ 2 ปีก่อนเธอศึกษาอยู่ที่ Bangalore และแต่งงานกับ Sanjaya Singh
ซึ่งเป็นแพทย์อยู่ที่ Kuala Lumpur เธอภูมิใจกับความสูงของเธอมาก
เพียงแต่จะลำบากอยู่บ้างกับการเดินทางโดยรถบัสประจำทาง หรือรถยนตร์
กับเวลาปรากฏตัวไปที่ไหนๆกับสามี ผู้มีความสูง 6 ฟุต 6 นิ้

  

ต้นไม้ที่สูงที่สุด   คือ ต้นเรดวู๊ด 
พบบริเวณตอนเหนือของป่าที่ Californian ( Sequoia National Park)มีความสูงถึง   380 ฟุต (114m)
คาดว่ามันมีอายุอยู่ในระหว่าง 7-800 ปี

 

 

 


โซฟาที่ถูกสร้างขึ้นได้รับการบันทึกจากกินเนสส์บุ๊คว่ายาวที่สุดในโลก
คือโซฟาสีแดงที่ ได้รับการออกแบเพื่องาน Aarhus Festival in Denmark
มีความยาว 168 ฟุต 8 นิ้วหรือประมาณ 50.40 เมตร
น้ำหนัก 1.4 ตัน มีจำนวนขา 54 ขา
ให้ที่นั่งได้ 104 คน

 


น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก   

      คือ น้ำตกแองเจล (Angel) ในเวเนซูเอลา สูง 3,212 ฟุต
ชาวพื้นเมืองเวเนซูเอล่าจะรู้จักน้ำตกนี้ในชื่อ "Salto Angel"
Angel ตกลงมาจากยอดเขาที่เรียกว่า "table mountains"



 

คนแรกของโลก

 

 

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่เชื่อว่าโลกกลม และเป็นผู้ค้นพบอเมริกาคนแรกเป็นชาวอะไร ค้นพบโดยวิธีใด   (ชาวอิตาลี ชื่อ โคลัมบัส เป็นนักเดินเรือ
       พบอเมริกาโดยเดินเรือชื่อ ซานตามาเรีย)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่เดินเรือรอบโลกสำเร็จเป็นคนแรก   (เฟอร์ดินันท์ แมคเจลแลนด์ ชาวโปรตุเกส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบหมู่เกาะฟิลิปปินส์เป็นคนแรก   (เฟอร์ดินันท์ แมคเจลแลนด์)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบเกาะฮาวายเป็นคนแรก   (กัปตันคุก นักเดินเรือชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifนักท่องเที่ยวชาวเวนิชคนแรกที่เดินทางไปประเทศจีน สมัยพระเจ้ากุบไลข่าน คือ   (มาร์โคโปโล)

anigray03_pulse_next_1.gifนักเดินเรือคนแรกที่เดินทางไปถึงทวีปอเมริกา   (อเมริโกเวสปุสชี)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่สามารถเดินทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮปไปถึงอินเดียสำเร็จเป็นคนแรก   (วาสโกดา กามา นักเดินเรือชาวฝรั่งเศส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่สามารถเดินทางไปถึงเกาะออสเตรเลียเป็นคนแรก   (จันสซ์ นักสำรวจชาวฮอลันดา)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นคนแรก   (บัลบัว นักสำรวจชาวสเปน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบเม็กซิโกเป็นคนแรก   (เฮอร์แมน โคเคอเตส ชาวสเปน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบฟลอริดาเป็นคยแรก   (ลีออน ชาวฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.2064)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบคองโกเป็นคนแรก   (เฮนลีย์ แสตนเล่ย์ ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบอียิปต์เป็นคนแรก   (เจมส์ บรู๊ค ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ค้นพบขั้วโลกเหนือของแม่เหล็กอยู่ทางตอนเหนือของแคนนาดา   (เจมส์ คล้าก รอสส์ ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2374)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ค้นพบขั้วโลกใต้ของแม่เหล็กอยู่ทางตอนใต้ของ South Victoria   (ดักลาส มอสัน ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2452)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่สำรวจขั้วโลกใต้สำเร็จเป็นคนแรก   (โรลด์ อิมุนเสน ชาวนอรเวย์)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นคยแรก   (ไมเคิล ฟาราเดย์ ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2374)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์รถแทร็กเตอร์เป็นคนแรก   (เบนจามิน ฮอลด์ ชาวอเมริกา ในปี พ.ศ.2443)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์แบตเตอรี่เป็นคนแรก   (อเล็กซานโดร  โวลตา ชาวอิตาลี ในปี พ.ศ.2342)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์สไลด์รูลเป็นคนแรก   (ออเทรด ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2163)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำเป็นคนแรก   (เจมส์ วัตต์ ชาวสก็อต ในปี พ.ศ.2312)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องยนต์ไฟฟ้าเป็นคนแรก   (ออตโต ฟอน กูริค ชาวเยอรมัน ในปี พ.ศ.2180)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องกิโยตินเป็นคนแรก   (อังตวนหลุย ชาวฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2335)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์ตะเกียงเจ้าพายุเป็นคนแรก   (เชอร์ ฮัมฟรี เดวีย์ ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ใช้ปรอททำเทอร์โมมิเตอร์เป็นคนแรก   (กาเบรียล ดาเนียล ฟาเรนไฮต์ ชาวเยอรมัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์กล้องโทรทัศน์เป็นคนแรก   (กาลิเลโอ ชาวอิตาลี)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องยนต์ใช้น้ำมันแก๊สโซลีนเป็นคนแรก   (เดมเลอร์)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์ไฟฟ้า เครื่องบันทึกเสียง จานเสียง เป็นคนแรก   (โทมัส อัลวา เอดิสัน ชาวอเมริกา)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์กลจักรรถไฟเป็นคนแรก   (ยอร์จ สตีเฟนสัน ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์ลูกบอลลูนเป็นคนแรก   (โยเซฟ และเอเตียน มองต์โกลฟิเอร์ ชาวฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.2326)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องบินไอพ่นเป็นคนแรก   (แฟรงค์ วิตเติล ชาวอังกฤษในปี พ.ศ.2480)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องบินเป็นคนแรก   (สองพี่น้องตระกูลไรท์ คือ วิลเบอร์ ไรท์ และออร์วิล ไรท์ ชาวอเมริกัน ในปี พ.ศ.2446)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินสี่เครื่องยนต์เป็นคนแรก   (อิกอร์ อิวาน โนวิซซี คอร์สกี้ ชาวรัสเซีย ในปี พ.ศ.2482)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องกลไฟเป็รคนแรก   (โรเบิร์ต ฟุลสตัน ชาวอเมริกัน ในปี พ.ศ.2350)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องส่งโทรเลขเป็นคนแรก   ( แซมมวล มอร์ส ชาวอเมริกัน ในปี พ.ศ.2387)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องโทรศัพท์เป็นคนแรก   (อเล็กซานเดอร์ เกรแฮมเบลล์ ชาวสก๊อต ในปี พ.ศ.2418)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์วิทยุเป็นคนแรก   (มาร์โคนี ชาวอิตาลี ในปี พ.ศ.2422)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้พบไฟฟ้าในอากาศ และประดิษฐ์สายล่อฟ้า เป็นคนแรก   (เบนจามิน แฟรงคลิน ชาวอเมริกัน ในปี พ.ศ.2295)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์นาฬิกาเดินเรือเป็นคนแรก   (ทอร์รา เชลลี ชาวอิตาลี ในปี พ.ศ.2151-2190)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เข็มทิศเป็นคนแรก   (จอห์น แฮริสัน ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์แท่นพิมพ์สำเร็จเป็นคนแรก   (วิลเลียม แคกซ์ตัน ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์บารอมิเตอร์เป็นคนแรก   (วิลเลียม ทอมสันเคลวิน ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เลนส์พิเศษสำหรับภาพยนตร์จอกว้างแบบซิเนมาสโคปคือ   (อังรี เครเตียน ชาวฝรั่งเศส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์กล้องและฟิล์มถ่ายรูปสำเร็จเป็นคนแรก   (โทมัส เวดจ์วู๊ด ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifชาติใดประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นชาติแรกของโลก   (อียิปต์)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องวัดเวอร์เนียร์คือ   (ปีแอร์ เวอร์เนียร์ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์ตะเกียงบุนเสนคือ   (โรเบิร์ต วิลเฮล์ม บุนเสน ชาวเยอรมัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์นาฬิกาแดดเป็นคนแรก   (อแน็ค ซิเมเดอร์ นักปรัชญาชาวกรีก)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์ฝนเทียมสำเร็จเป็นคนแรก   (เออร์วิง แลงมัว ชาวอเมริกัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์กล้องโกดักเป็นคนแรก   (ยอร์จ อีสต์แมน ชาวอเมริกา)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ให้กำเนิดการวัดด้วยหลาคือ   (พระเจ้าเฮนรี่ที่ 1 แห่งอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ให้กำเนิดการวัดด้วยฟุตคือ   (พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์ปากกาสำหรับเขียนหนังสือคือ   (แฮริสัน ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2323)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์นาฬิกาไขลานคือ   (เฮอร์ลิบ ชาวเยอรมัน ในปี พ.ศ.2020)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ดีดคือ   (คูเตนเบิร์ก ชาวเยอรมัน ในปี พ.ศ.2000)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เรือเหาะเป็นคนแรก   (กิฟฟาร์ด ชาวฝรั่งเศส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เครื่องดับเพลิงเป็นคนแรก   (โจเซฟ บรามาส์ ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เหล็กกล้าจากเหล็กหล่อเป็นคนแรก   (เฮนรี่ เบสเซมเบอร์ ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2399)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์เตารีดไฟฟ้าเป็นคนแรก   (โรเบิร์ต แฮร์ ชาวอเมริกัน ในปี พ.ศ.2324)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์กระติกน้ำร้อน และกระติกน้ำแข็งเป็นคนแรก   (เดวาร์ ชาวสก็อต)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่รู้จักคานงัด คานดีด เขากล่าวว่า "ถ้าข้าพเจ้าสามารถออกไปยืนนอกโลกได้ เขาสามารถใช้คานงัดโลก เขาสามารถใช้คานงัดโลกให้  
       กระเด็นได้" คือ   
(อาร์คี เมดิส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์ชวเลขแบบเกร๊กก์เป็นคนแรก   (จอห์น โรเบิร์ต เกร๊กก์ ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบกฎของความต้านทานไฟฟ้า วึ่งตั้งชื่อว่ากฎของโอห์มคือ   (ยอร์จ ซิมมอล โอห์ม นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบว่าราที่ชื่อว่าเพ็นนิซิเลียม สามารถนำมาทำเป็นยาเพนนิซิลิน สำหรับแก้หนองได้   (อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบวิธีป้องกันและรักษาโรคอหิวาตกโรคไข้เหลืองกามโรค โรคกลัวน้ำและการฉ๊ดวัคซีนเป็นคนแรก   (หลุยส์ ปาสเตอร์ ชาวฝรั่งเศส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พิสูจน์ว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งในการฆ่าเชื้อโรคก่อนทำการผ่าตัด   (โยเซฟ ลิสเตอร์ ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบวงจรโลหิตเป็นคนแรกในโลก   (วิลเลียม ฮาร์วี นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่พบกฎการดึงดูดของโลก   (เซอร์ ไอ แซคนิวตัน)

anigray03_pulse_next_1.gifหน่วยวัดกระแสไฟฟ้า ตั้งตามชื่อของ   (อังเดรมารีแอมแปร์ ชาวฝรั่งเศส)

anigray03_pulse_next_1.gifนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่เชื้อชาติเยอรมัน ผู้ตั้งทฤษฎีสัมพันธภาพคือ   (อัลเบิร์ต ไอน์สไตลน์)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้คิดวิชาเรขาคณิตขึ้นเป็นชาติแรก   (ยุคลิด นักคำนวณ ชาวกรีก)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ได้ชื่อว่า เป็นผู้ริเริ่มการพยาบาลแผนใหม่คือ   (ฟลอเรนซ์ ไนติงเกิล สตรีชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้คิดและประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ยางเป็นคนแรกคือ   (ชาร์ลส์ กู๊ดเยียร์ ชาวอเมริกัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์จรวดเป็นคนแรก   (ดร. โรเบิร์ต ฮัทชิงส์ นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ค้นพบกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าคนแรกของโลก   (ไฮน์ริช เฮอร์ท นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ค้นพบแสงเอ๊กซเรย์เป็นคนแรก   (วิลเฮล์ม เรินก์เก็น ชาวเยอรมัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ค้นพบวิธีปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษเป็นคนแรก   (เอดเวิร์ด เจนเนอร์ ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น บิดาของทฤษฎีปรมาณูคือ   (เดวิด บอห์ นักวิทยาศาสตร์ชาวเดนมาร์ก)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์ภาพยนตร์เป็นคนแรก   (วิลเลี่ยม ฟรีสกรีน ชาวอเมริกัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ให้กำเนิดวิชาทำแผนที่เป็นคนแรกคือ   (อแน็ค ซิมิเตอร์ นักปรัชญาชาวกรีก)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ให้กำเนิดวิชาเรขาคณิตเป็นคนแรกของโลก   (ปีทากอรัส ชาวกรีก)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ประดิษฐ์ยางดันล็อป   (ดันล็อป ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบออกซิเจนเป็นคนแรก   (โจเซฟ เพรสเล่ย์ ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2317)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบไนโตรเจนเป็นคนแรก   (ดาเนียล รัทเธอร์ฟอร์ด ชาวสก๊อต ในปี พ.ศ.2315)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบฮีเลียมเป็นคนแรก   (เชอร์วิลเลี่ยม แรมเชย์ ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2438)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบโซเดียมเป็นคนแรก   (ดูฮัมเมล เดอมอลซิน ชาวฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.2309)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบธาตุเรเดียมเป็นคนแรก   (ปีแอร์ และมาดามคูรี ชาวโปแลนด์ ในปี พ.ศ.2441)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบโปตัสเซียมเป็นคนแรก   (เซอร์ฮัมฟรีเดวีย์ ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2350)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบธาตุแคลเซียมเป็นคนแรก   (เซอร์ฮัมฟรีเดวีย์ ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2351)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบธาตุแบเรียมเป็นคนแรก   (เซอร์ฮัมฟรีเดวีย์ ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2351)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบแมงกานีสเป็นคนแรก   (โยฮันน์ กัม ชาวสวีเดน ในปี พ.ศ.2317)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบนิเกิลเป็นคนแรก   (เซอร์ วิลเลี่ยม ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2441)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบธาตุยูเรเนียมเป็นคนแรก   (มาร์ติน แครมพร็อธ ชาวเยอรมัน ในปี พ.ศ.2332)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบธาตุอาร์กอนเป็นคนแรก   (ลอร์ดราเลย์ และเซอร์วิลเลี่ยม แลมเชย์ ชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2437)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบคลอรีนเป็นคนแรก   (คาร์ลสคีล ชาวสวีเดน ในปี พ.ศ.2317)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบไฮโดรเจนเป็นคนแรก   (เฮนรี คาเวนดีช ชาวอังกฤษ ในปีพ.ศ.2309)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ค้นพบแมกนีเซียมเป็นคนแรก   (โจเซฟ แบล็ค ชาวสก๊อต ในปี พ.ศ. 2298)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ไต่ถึงยอดเขาเอเวอร์เรสต์สำเร็จเป็นคนแรก   (พ.อ.จอห์นฮันต์ นักสำรวจชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ได้รับสมญานามว่า "ราชาหนังสือพิมพ์" เป็นคนแรก   (ลอร์ด นอธคลิฟ ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ให้กำเนิดกีฬาโอลิมปิคคือ   (บารอน ปีแอร์ เดอคู แปร์แดง จัดครั้งแรกที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ให้กำเนิดไปรษณีย์เป็นคนแรก   (พระเจ้าไซรัสมหาราช แห่งเปอร์เซีย)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นราชาการ์ตูน   (วอลเทอร์ ดิสนีย์ ชาวอเมริกัน)

anigray03_pulse_next_1.gifสตรีคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ   (นางวิชัยลักษณมี บัณฑิตแห่งอินเดีย)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดดาราศาสตร์สมัยใหม่คือ   (กาลิเลโอ ชาวอิตาลี)

anigray03_pulse_next_1.gifวีรสตรีชาวฝรั่งเศสผู้นำทัพรบชนะทหารอังกฤษ ที่ล้อมเมืองออร์ลีน จนได้รับสมญานามว่าเป็นแม่มดแห่งออร์ลีนคือ   
       
(โจน ออฟ อาร์ค)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ริเริ่มการลูกเสือเป็นคนแรกคือ   (ลอร์ด เบเดนเพาเวลล์ ชาวอังกฤษ)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้อำนวยการขุดคลองสุเอชจนสำเร็จคือ   (เฟอร์ดินันน์ เดอเลสเซฟ วิศวกร ชาวฝรั่เศส)

anigray03_pulse_next_1.gifวิศวกรขุดคลองปานามาจนสำเร็จคือ   (โกเธลล์ วิศวกรชาวอเมริกัน)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ค้นพบส่วนประกอบของอากาศและการเผาไหม้เป็นคนแรกคือ   (ลาวัวซิเอย์ เบรลล์ ชาวฝรั่งเศส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ปรับปรุงและคิดวิธีอ่านเขียนหนังสือของคนตาบอดคือ   (หลุยส์ เบรลล์ ชาวฝรั่งเศส)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่ได้ชื่อว่าราชาไข่มุกของโลกคือ   (มิกิโตโกะ ชาวญี่ปุ่น)

anigray03_pulse_next_1.gifผู้ที่จัดตั้งรางวัลโนเบลคือ   (อัลเฟรดเบอนาร์ด โนเบล นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดน)

 

 

 

 

 

ความรู้ทั่วโลก


1.เงินตอบแทนความชอบให้แก่ทหารออกประจำการคืออะไร::: (เบี้ยหวัด)
2.หน่วยนับกระดาษเรียกว่าอะไร::: (รีม)
3.กระดาษ 1 รีมมีทั้งหมดกี่แผ่น::: (480แผ่น)
4.คำสอนของพระพุทธเจ้า 84,000 พระธรรมขันธ์สิ่งที่เป็นแก่นพระพุทธธรรมคืออะไร::: (อริยสัจ 4)
5. "ฐานันดรที่ 4" เรียกคนในอาชีพใด::: (นักหนังสือพิมพ์)
6.ดอกกระถินเทศ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าอะไร::: (ดอกคำใต้)
7.อาวุธพกประจำตัวของชาวใต้ในอดีตคืออะไร::: (กริช)
8.ไวรัส บี. เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคอะไร::: (ตับอักเสบ)
9.ภาคใต้ของไทยใช้สัตว์ใดลากเกวียน::: (ควาย)
10.ม้าลายมีลายสีอะไร::: (ลายสีขาว)
11.ม้าเมื่อมันโกรธ จะแสดงอาการอย่างไร::: (หูจะลู่ไปข้างหลัง)
12.พ่อไก่อูกับแม่ไก่แจ้ผสมกันออกลูกเป็นไก่อะไร::: (ไก่พันทาง)
13.คนโบราณเรียกพี่สาวคนโตว่าอะไร::: (เอื้อย พี่สาวคนรองว่าอี่)
14.เลือกควายดีดูอย่างไร::: (มีกีบเอียง จมูกบาน หลังตรง โครงใหญ่)
15.. "โพคาฮอนตัส" คือใคร::: (เจ้าหญิงอินเดียนแดงซึ่งพบรักกับกัปตันจอห์นสมิธ จนเป็นตำนาน)
16.ดินแดนแห่งใดได้ชื่อเป็นดินแดนแห่งการปฏิวัติ::: (อเมริกาใต้)
17.โรคเมราโดมา คือโรคอะไร::: (อาบแดดเกินขนาด)
18.นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ให้เอกราชแก่อินเดียปี 2490 คือใคร::: (คลีเมนต์ แอตลี)
19."วังหน้า" คือวังของใคร::: (วังที่ประทับของพระมหาอุปราชา)
20.ทะเลสาบน้ำจืดที่งดงามของเชียงใหม่ชื่ออะไร::: (อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า)
21.สงครามมหาเอเชียบูรพาคือสงครามอะไร::: (ญี่ปุ่นประกาศสงครามกับพันธมิตร ส่งทหารยึดประเทศต่าง ๆในเอเชียช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2)
22.ยาสลบทำจากอะไร::: (คลอโรฟอร์ม)
23.อาหารกระป๋องที่สมบูรณ์ เก็บไว้ได้นานเท่าไร::: (1 ปี)
24.ตำแหน่ง "เชฟ" (Shef) คืออะไร::: (หัวหน้าพ่อครัว)
25.อเมริกันฟุตบอลมีผู้เล่นทีมละกี่คน::: (11 คน ใครทำแต้มมากกว่าเป็นผู้ชนะ)
26.ในทางเคมี สารที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเลือดมนุษย์ที่สุดคืออะไร::: (น้ำทะเล)
27.อันตน ฟัน เลเวนฮุก ชาวฮอลันดาพบอะไร::: (จุลชีวัน)
28.บุษราคัม เป็นพลอยสีอะไร::: (สีเหลือง)
29."พระราชพิธีสิบสองเดือน" เป็นพระราชนิพนธ์ของใคร::: (รัชกาลที่ 5)
30.หน่วยเงินตราของอังกฤษเรียกว่าอะไร::: (ปอนด์)
31.กลิ่นเมนทอลในยาสีฟันทำจากอะไร::: (ใบสะระแหน่)
32.มหาหิงคุ์ ยาไทยทาแก้ปวดท้องทำจากอะไร::: (ยางไม้ชนิดหนึ่ง)
33.เห็ดราซึ่งเกิดจากการหมัก ดอง หรือบูด ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเรียกว่าอะไร::: (ยีสต์)
34.ผู้ปกครองสิงคโปร์ในอดีตคือใคร::: (อังกฤษ)
35.บั้งไฟดีที่สุดเป็นของจังหวัดใด::: (ยโสธร)
36. "พระราชินีแห่งพรหมจรรย์" เป็นสมญานามของใคร::: (พระนางอลิซาเบธที่ 1)
37.เกาะใดเคยเป็นส่วนหนึ่งของทวีปออสเตรเลีย::: (เกาะแทสมาเนีย)
38."เมืองปริผาวา" ของอินเดียในอดีต คือเมืองใดในปัจจุบัน::: (เมืองกบิลพัสดุ์ สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า)
39.ผลิตภัณฑ์สบู่ใช้น้ำมันอะไรในการผลิต::: (น้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว)
40.ผงครามที่ใช้ย้อมผ้าทำจากอะไร::: (ต้นคราม)
41.แหล่งกำเนิดสุนัขไทยหลังอานอยู่ที่ไหน::: (ตราด)
42.คติชาวบ้านเชื่อว่าปลาตัวใดจะช่วยคนเมื่อเรือแตก::: (ปลาโลมา)
43.ป่าที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาคือป่าอะไร::: (ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน)
44."มอลลา โฮลิก" เป็นชื่อเรียกกลุ่มคนที่เป็นโรคอะไร::: (ชอบเดินช้อปปิ้งในศูนย์การค้า)
45.คนไทยรู้จักปลาทูน่าอีกชื่อหนึ่งว่าอะไร::: (ปลาโอ)
46.พระสุนทรโวหาร (ภู่) เกิดในรัชสมัยใด::: (รัชกาลที่ 1)
47.ไทยเรียกลมชนิดหนึ่งว่า "ลมงวงช้าง" คือลมอะไรในอเมริกา::: (ทอร์นาโด)
48."โพไซดอน" เป็นเทพยเจ้าแห่งทะเลของใคร::: (ชาวกรีก)
49.การฉีดทูเบอร์คูลินเข้าที่ท้องแขนเพื่อทดสอบโรคอะไร::: (วัณโรค ถ้าเป็นโรคจะมีตุ่มสีแดงที่จุดฉีด)
50.เจ.เอ็ม.แบร์รี่ เขียนหนังสือเรื่องอะไร::: (ปีเตอร์แพน)
51."ดินแดนแห่งกระต่าย" เป็นชื่อเรียกประเทศใด::: (สเปน)
52.ใครแต่งเพลง "ออลด์ แลง ไซน์"::: (โรเบิร์ต เบิร์นส)
53."เซมเปิล วัคซีน" คือวัคซีนป้องกันโรคอะไร::: (พิษสุนัขบ้า)
54.ประเทศยูกันดาอยู่ในทวีปอะไร::: (ทวีปแอฟริกา)
55. เห็ดชนิดเดียวที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติคือเห็ดอะไร::: (เห็ดโคน)
56.สารโมโนโซเดียม แอลกลูตาเมท รู้จักอีกนามหนึ่งคืออะไร::: (ผง
57.นกตัวใดเป็นสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกา::: (นกอินทรีหัวขาว)
58.ยาฆ่าแมลงหลายชนิด เช่น ดีดีที มีธาตุอะไรเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ::: (คลอรีน)
59.บ้านท่าจีนในอดีตคือจังหวัดอะไร::: (สมุทรสาคร)
60.โรคอัลไซเมอร์ ทำให้ร่างกายส่วนไหนผิดปกติ::: (สมองเสื่อม)
61. เมืองใดของศรีลังกาได้ชื่อ "เมืองแห่งเพชรพลอย"::: (รัตนปุระ)
62.เทศกาลหิมะ "สโนว์ เฟสติวัล" จัดทุกปีในเมืองใด::: (ซับโปโร เกาะฮอกไกโด ญี่ปุ่น)
63. ซิกมุนด์ ฟรอยด์ ได้รับการยกย่องอย่างไร::: (บิดาแห่งจิตวิทยาสมัยใหม่)
64.วิกตอเรีย เป็นเมืองหลวงของเขตปกครองพิเศษแห่งใดของจีน::: (ฮ่องกง)
65.ปราชญ์จีน "จ้งหนี แซ่ขง" คือใคร::: (ขงจื้อ)
66.เราเรียกใครว่า "ไต้ก๋ง"::: (นายท้ายเรือสำเภาหรือเรือจับปลา)
67.ชาวสิงหลและทมิฬ เป็นคนของประเทศใด::: (ศรีลังกา)
68.สเปนหมดอำนาจทางทะเลเพราะแพ้สงครามใคร::: (เรือสเปน 130 ลำพ่ายแพ้อังกฤษ)
69.นักบุญองค์ใดเผยแพร่พระคริสต์ธรรมคาทอลิกในเอเชีย::: (ซาเวียร์)
70.อุตสาหกรรมผลิตเบียร์ใช้ข้าวอะไร::: (ข้าวบาร์เลย์, ข้าวมอลท์)
71.ป่าสักทองผืนสุดท้ายของไทยอยู่ที่ไหน::: (อุทยานแห่งชาติแม่ยม จังหวัดแพร่)
72.โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามทางภาคใต้มีชื่อเรียกอะไร::: (ปอเนาะ)
73. "เซาท์ แปซิฟิก" เป็นชื่อเรียกเกาะแห่งใด::: (เกาะโพลีนีเซีย)
74.เมืองใดในเอเชียตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่โคลัมบัส::: (โคลอมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา)
75.กระดาษสาทำจากต้นอะไร::: (ต้นสา หรือปอสา)
76.ใครปลดปล่อยยิวจากการเป็นทาสของอียิปต์โบราณ:::(โมเสส)
77.นครหลวงของทิเบตชื่ออะไร::: (ลาซา)
78.เพลง "อินเตอร์เนชั่นแนล" ร้องกันในหมู่เหล่าใด::: (ชาวมาร์กซิสม์)
79.สถานที่ประชุมทำศาสนกิจของชาวมุสลิมเรียกอะไร::: (สุเหร่า หรือมัสยิด)
80.ลมที่พัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือในปลายฤดูฝนคือลมอะไร::: (ลมสลาตัน)
81.กลุ่มประเทศอักษะในสงครามโลกครั้งที่ 1 มีประเทศใด::: (เยอรมนี, อิตาลี และญี่ปุ่น)
82.อังกะลุง เป็นเครื่องดนตรีของชาติใด::: (ชวา)
83.ตัวยา AZT และ DDI ใช้รักษาโรคอะไร::: (เอดส์)
84.ในอังกฤษมีพรรคการเมืองกี่พรรค::: (2 พรรค อนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงาน)
85.หนังสือ ไมน์ แคมฟ์ "การต่อสู้ของข้าพเจ้า" เป็นของใคร::: (ฮิตเลอร์)
86.เมืองใดในยูโกสลาเวียเป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1::: (ซาราเจโว)
87.ใครเขียนเรื่อง "ไอแวนโฮ" และ "ร็อบ รอย"::: (เซอร์ วอลเตอร์ สกอต)
88.คำไทย "เบอร์" หมายเลขลำดับ มาจากคำอังกฤษว่าอะไร::: (นัมเบอร์ number)
89.สถาบันเฝ้าระวังภัยโลกตั้งอยู่ที่ไหน::: (กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.)
90.พระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1,2,3 และ 4 อยู่ในวัดใด::: (วัดพระเชตุพนฯ)
91.มดที่ทำงานง่วนอยู่ทั้งวัน เป็นมดตัวผู้หรือตัวเมีย::: (ตัวเมีย)
92.สะพานโกลด์เด้นเกท เป็นสะพานแขวนที่มีชื่อเสียงของที่ใด::: (ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ)
93."บันดาร์ เสรี เบกาวัน" เป็นเมืองหลวงของประเทศใด::: (บรูไน)
94.ทหารเรือไทยยกย่องเรือลำใดว่าเป็นเรือครู::: (เรือรบแม่กลอง)
95.ทองคำแท้มีกี่กะรัต::: (24 กะรัต)
96.รูปเทพารักษ์ที่ประดิษฐานไว้ในศาลพระภูมิเรียกว่าอะไร::: (เตว็ดหรือเจว็ด)
97.การประชุมเอเปค (APEC) เป็นความริเริ่มของชาติไหน::: (ออสเตรเลีย)
98.กวางเรนเดียร์ถูกใช้งานลากล้อเลื่อนในที่ใด::: (ยุโรปเหนือ)
99.เสือกับสิงโตผสมกันออกลูกเรียกอะไร::: (ไลเกอร์ liger)
100. รางวัลพูลิตเซอร์ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ใคร::: (โจเซฟ พูลิตเซอร์ นักหนังสือพิมพ์ชาวอเมริกัน

 

 

รุ้งกินน้ำทำไมจึงโค้ง

        หลังฝนตก ถ้าโชคดีเราจะเห็นรุ้งกินน้ำโค้งตามขอบฟ้า ซึ่งปรากฎการณ์เช่นนี้นักวิทยาศาสตร์ชาว

ฝรั่งเศษได้อธิบายไว้ว่าเมื่อแสงตกกระทบกับหยดน้ำ จะทำให้แสงเกิดการหักเหหรือโค้งงอ แสงที่ผ่านออก

มาทางด้านหลังของหยดน้ำก็จะเกิดการหักเหที่มากกว่าเดิม ส่วนต่างมุมที่แสงตกกระทบและผ่านออกไปมี

ค่าเฉลี่ยประมาณ 42 องศา โดยที่แสงแต่ละสีจะมีการโค้งงอหรือเบี่ยงเบนต่างกันจึงเป็นเหตุให้สามารถเห็น

แถบสีรุงสำหรับรุ้งกินน้ำที่เห็นบนท้องฟ้านั้น เกิดจากแสงอาทิตย์ตกกระทบละอองน้ำฝนจำนวนมากนับล้านๆ

หยดและผ่านออกมาด้วยค่ามุมเฉลี่ย 42 องศา หากคนสองคนยืนอยู่ในตำแหน่งต่างกันประมาณ 2-3 ฟุต

จะเห็นรุ้งกินน้ำขึ้นในตำแหน่งเดียวกัน แต่รุ้งกินน้ำที่ทั้งสองเห็นนั้นจะไม่ใช่รุ้งกินน้ำเส้นเดียวกัน เพราะรุ้งกินน้ำจะ
เกิดจากละอองน้ำฝนที่อยู่ต่างตำแหน่งกันนั้นเองส่วนสาเหตุที่รุ้งกินน้ำโค้ง โดยที่ไม่เป็นเส้นตรงหรือรูปร่างอื่นๆ

นั้น ก็เนื่องมาจากละอองน้ำฝนหลายๆ ละอองนั้นทำให้แสงเปลี่ยนทิศทางต่างกัน คือมีทั้งที่โค้งขึ้นเป็นมุม 42 องศา

และโค้งลงเป็นมุม 42 องศา และโค้งออกมาทางด้านข้างของละอองน้ำ แต่คนเราจะเห็นเพียงแสงสีรุ้งที่โค้งขึ้น

มากกว่า42 องศาเท่านึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเห็นเส้นรุ้งเป็นรูปโค้ง

 

 


68  สิ่งที่เราไม่เคยรู้

 

1.ยุงบินด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง...
2.ผีเสื้อบินด้วยความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง...
3.เส้นผมคนรับน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม...
4.เสียงกรนที่ดังที่สุดดังถึง 87.5 เดซิเบลล์
5.พอล แมคคาร์ที เป็นเจ้าของลิขสิทธิเพลงแฮปเบิร์ดเดย์  ถ้าจะนำมาออกรายการ ต้องซื้อลิขสิทธิก่อน...
6.เหรียญทองโอลิมปิกต้องมีแร่เงินผสมอยู่ 92.5 เปอร์เซนต์...
7.หอเอนเมืองปิซาเอนไปทางใต้...
8.กษัตริย์หลุยส์ที่ 14 อาบน้ำทั้งหมด 3 ครั้งในชีวิต...
9.ฮิตเลอร์แสกผมข้างซ้าย...
10.ผู้หญิงที่เกาะฮาวายที่ทัดดอกไม้ที่หูข้างซ้าย แสดงว่ามีเจ้าของแล้ว...

11.เราไม่สามารถฆ่าตัวตายด้วยการกลั้นหายใจได้...
12.ผู้หญิง 3.9 เปอร์เซนต์ไม่ชอบใส่กางเกงใน...
13.ฮิปโปผายลมทางปาก...
14.ประเทศซาอุดิอราเบียไม่มีแม่น้ำ...
15.กังหันทั้งโลกหมุนทวนเข็มนาฬิกา ยกเว้นที่ไอร์แลนด์...
16.เด็กนักเรียนอายุ15 ปีขึ้นไปในบังคลาเทศจะถูกจับเข้าคุกถ้า"โกงข้อสอบ"...
17.ปลาที่อาศัยในน้ำลึกเกิน 800 เมตร จะไม่มีตา...
18.ผมคนเราจะร่วงประมาณ 200 เส้นต่อวัน...
19.ตัว"โอ"เป็นสระที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ...
20.คนพูดประมาณ 120 คำต่อนาที

21.ฝ่ามือและฝ่าเท้าของคนเราไม่สามารถไหม้ได้...
22.เม่นชอบช่วยตัวเอง...
23.ถ้าปลาไหลไฟฟ้าอยู่ในน้ำเค็ม จะถูกช็อตตาย...
24.ขั้นบันไดในไทยจะเป็นเลขคี่...
25.เจ้าฟ้าชายชาลส์ชอบสะสมฝาโถส้วม...
26.คนมีโอกาสตายจากผึ้งต่อยมากกว่างูกัด...
27.ประเทศวาติกันมีประชากรประมาณ 1000 คน
28.เมื่อคุณจาม หัวใจคุณจะหยุดเต้นเสี้ยววินาที
29.มันเป็นไปมะได้อ่ะคับ ถ้าคุณจะจามโดยไม่หลับตา
30.เดิมโคคาโคล่าเป็นสีเขียว

31.ชื่อที่โหลที่สุดในโลกคือ Mohammed
32.กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายคือลิ้น
33.แต่ ละโพหลังไพ่ แสดงถึงกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จากประวัติศาสตร์ - โพดำกษัตริย์เดวิด - ดอกจิก อเล็กซานเดอร์มหาราช - โพหัวใจ ชาร์ล เลอ มาญ - ข้าวหลามตัด จูเลียส ซีซาร์
34. อนุสาวรีย์ของใครสักคนที่อยู่บนหลังม้า และม้ายกสองขาขึ้นบนอากาศ แปลว่าคนนั้นตายในสงคราม
35.ถ้าม้ายกขาข้าเดียวแปลว่า เขาบาดเจ็บในสงคราม และตายจากการบาดเจ็บนั้น
36.ถ้าทั้งสี่ขาของม้าอยู่บนพื้น แสดงว่าตายโดยธรรมชาติ
37.ใน 4000 ปีที่ผ่านมา ไม่มี!ชนิดใหม่ๆที่ถูกทำให้เชื่อง
38.เชคสเปียร์ เป็นคนคิดค้นคำว่า assassination (การลอบฆ่า) และ bump (ชน กระทบ)
39.หัวใจมนุษย์สร้างความดันเพียงพอที่จะปั๊มเลือดออกจากร่างกายไป 30 ฟุต
40. หนูสามารถสืบพันธ์ได้เร็วมาก ใน 18 เดือน หนูสองตัวจะสามารถมีทายาทมากกว่าล้านตัว

41.การใส่หูฟังแค่ชั่วโมงเดียว ทำให้แบคทีเรียในหูเพิ่มขึ้น700 เท่าตัว
42.ลิปสติกส่วนใหญ่มีส่วนประกอบของเกล็ดปลา
43.เหมือนกับลายนิ้วมือ....ลายลิ้นทุกคนต่างกัน
44.นิตยสาร time ได้ยกย่องให้คอมพิวเตอร์เป็นบุคคลแห่งปีในปีค.ศ.1982
45.สถิติจูบนานที่สุดในโลกเป็นของหลุยซา แอลเมโดวาร์ วัย 19 ปีกับแฟนหนุ่ม ริชแลงเลย์ วัย 22 ปีพวกเขาทำสถิติไว้ที่ 30.59.27 ชม.
46.ตอนที่ f4 ไปเปิดคอนเสิร์ตที่อินโดนีเซียทำให้เด็กนักเรียนเกือบ100 คน ต้องเรียนซ้ำชั้น เพราะไม่ได้ไปลงทะเบียนเรียนเทอม 2
47.บริษัทผู้ผลิตยาสีฟันดาร์ลี่เป็นเจ้าของเดียวกันกับที่ผลิตยาสีฟันคอลเกต
48.โดนั ลด์ ดักส์ ถูกแบนในประเทศฟินแลนด์ เพราะมันไม่ได้สวมกางเกงใน
49.ภาพยนต์ เรื่อง nothing hill จ่ายค่าตัวจูเลีย โรเบิร์ต 15ล้านเหรียญ ( 660 ล้านบาท ) ในขณะที่พระเอกอย่างฮิว แกรนจ์รับค่าตัวเพียง 1 ล้านเหรียญ ( 45 ล้านบาท)
50.หนังอนิเมชันเรื่อง SouthPark ได้รับการบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นหนังอนิเมชั่น เรื่องยาวที่หยาบคายที่สุดในโลกสถิติบันทึกไว้ว่า มีการใช้คำหยาบ 399 คำ พฤติกรรมรุนแรง 221 ครั้ง และแสดงท่าทางหยาบคาย 128 ครั้ง

51.ขนมทอดกรอบตรา ปูไทย ระบุว่าไม่มีส่วนผสมของเนื้อปู
52.ในน้ำทะเล 100 ตัน จะมีทองคำอยู่ประมาณ 4 กรัม
53.จำนวนแถวของข้าวโพดในแต่ละฝักจะเป็นเลขคู่
54.จิงโจ้เป็น!เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวที่เดินถอยหลังไม่ได้
55.ยุงชอบเลือดเด็กมากกว่าเลือดผู้ใหญ่
56.แมงมุมทอดรสชาติเหมือนถั่ว
57.ฟันของแมลงสาบอยู่ในท้อง
58.เม่นทุกตัวลอยน้ำได้
59.หมู มีโอกาสเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
60.นอกจากมนุษย์แล้ว หมีขั้วโลกและจิงโจ้ต่างก็จูบเป็น ส่วนลิงชิมแปนซีนั้นจูบแบบ "เฟรนช์คิส" ได้ด้วย

61.คนถนัดขวามีอายุเฉลี่ยยืนยาวกว่าคนถนัดซ้ายถึง 9 ปี
62.Hippopotomonstrsesquippedaliophobia คือ ชื่ออาการของคนที่หวาดกลัวคำอ่านยาวๆ
63.ผู้ที่เกิดเดือนมกราคม - มีนาคม มีแนวโน้มเป็นโรคจิตและโรคคลั่งมากกว่าเดือนอื่นๆ
64.แก้วไม่ได้เป็นของเเข็ง เเต่เป็นของเหลว
65.สมองคนเราหนักประมาณ 3% ของน้ำหนักของร่างกาย แต่ใช้เลือดไปเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมด
66.เลือดของกุ้งมังกรเป็นสีน้ำเงิน
67.อูฐสามารถหมุนหัว 180 องศา

68.รู้หรือเปล่าว่าเว็บgoogleไม่ได้มีประโยชน์แค่หาข้อมูล แต่เป็นเครื่องคิดเลขได้

 

 

 

 

 

 
 


          ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) เป็นปัญหาใหญ่ของโลกเราในปัจจุบัน สังเกตได้จาก อุณหภูมิ ของโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักของปัญหานี้ มาจาก ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gases)

          ปรากฏการณ์เรือนกระจก มีความสำคัญกับโลก เพราะก๊าซจำพวก คาร์บอนไดออกไซด์ หรือ มีเทน จะกักเก็บความร้อนบางส่วนไว้ในในโลก ไม่ให้สะท้อนกลับสู่บรรยากาศทั้งหมด มิฉะนั้น โลกจะกลายเป็นแบบดวงจันทร์ ที่ตอนกลางคืนหนาวจัด (และ ตอนกลางวันร้อนจัด เพราะไม่มีบรรยากาศ กรองพลังงาน จาก ดวงอาทิตย์) ซึ่งการทำให้โลกอุ่นขึ้นเช่นนี้ คล้ายกับหลักการของ เรือนกระจก (ที่ใช้ปลูกพืช) จึงเรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) ค่ะ 

          แต่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ CO2 ที่ออกมาจาก โรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ หรือการกระทำใดๆที่เผา เชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ) ส่งผลให้ระดับปริมาณ CO2 ในปัจจุบันสูงเกิน 300 ppm (300 ส่วน ใน ล้านส่วน) เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 แสนปี

          ซึ่ง คาร์บอนไดออกไซด์ ที่มากขึ้นนี้ ได้เพิ่มการกักเก็บความร้อนไว้ในโลกของเรามากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็น ภาวะโลกร้อน ดังเช่นปัจจุบัน

          ภาวะโลกร้อนภายในช่วง 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มานี้ ได้มีการบันทึกถึงปีที่มีอากาศร้อนที่สุดถึง 3 ปีคือ ปี พ.ศ. 2533, พ.ศ.2538 และปี พ.ศ. 2540 แม้ว่าพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังมีความไม่แน่นอนหลายประการ แต่การถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ได้เปลี่ยนหัวข้อจากคำถามที่ว่า "โลกกำลังร้อนขึ้นจริงหรือ" เป็น "ผลกระทบจากการที่โลกร้อนขึ้นจะส่งผลร้ายแรง และต่อเนื่องต่อสิ่งที่มีชีวิตในโลกอย่างไร" ดังนั้น ยิ่งเราประวิงเวลาลงมือกระทำการแก้ไขออกไปเพียงใด ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น และบุคคลที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ลูกหลานของพวกเราเอง

         

 

การจำแนกประเภทของพลาสติกตามลักษณะและสมบัติของพอลิเมอร์  แบ่งได้เป็น  ๒  ประเภท  คือ

         
- เทอร์โมพลาสติก วัสดุ ประเภทนี้ส่วนใหญ่มักได้จากปฏิกิริยาแอดคิชันพอลิ  เมอไรเซชัน  พลาสติกในกลุ่มนี้จะอ่อนนิ่มจนไหลได้เมื่อได้รับความร้อนเพียงพอและเมื่อ เย็นลงจะกลับแข็งคงรูปเช่นเดิม จะเป็นเช่นนี้เสมอ  ไม่ว่าจะทำกี่ครั้งก็ตาม  ได้แก่  พอลิเอทิลีน  พอลิโพรไพลีน  พอลิไวนิลคลอไรด์  พอลิสไตรีน  เป็นต้น

         - เทอร์โมเซ็ต เป็น วัสดุ ที่ได้จากปฏิกิริยาคอนเดนเซชันพอลิเมอไรเซชันพลาสติกประเภทนี้จะอ่อนนิ่มจน ไหลได้  เมื่อได้รับความร้อนเพียงพอในครั้งแรก  และเมื่อเย็นลงจะกลับแข็งคงรูป แต่จะทำได้เพียงครั้งเดียว ไม่สามารถทำได้ หลายครั้งเหมือนกับวัสดุเทอร์โมพลาสติก  ตัวอย่างของกลาสติกประเภทนี้  ได้แก่ เบกกาไลต์เมลามีนยูเรียฟอร์มาลตีไฮด์ ซิลิโคน เป็นต้น






     ข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งของจีนในรอบเดือนนี้ นอกจากการจัดแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่างการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกแล้วยังมี ข่าวดัง ที่ทารกหลายราย เสียชีวิต และอีกหลายพันคนที่ป่วยหนักจากการดื่มนมผงที่ผลิตขึ้นมาในประเทศจีน จนกระทั่งบริษัทซันลู่กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทต้นเหตุผู้ผลิตนมผงมรณะดังกล่าวต้องเรียกเก็บสินค้า คืน และประธานบริษัทก็ถูกรวบตัวเพื่อขยายผลดำเนินคดีต่อ  งานเสริมทำออนไลด์ผ่าน net รายได้ 5 หมื่น บ/ด ขั้นต่ำ สนใจสมัครที่ www.abc.321.cn 

     หาก ยังจำกันได้ สินค้าที่ผลิตในประเทศจีนนั้นมีปัญหาด้านคุณภาพบ่อยครั้ง โดยเฉพาะสินค้าสำหรับเด็ก เช่นการที่บริษัทแมตเทลต้องเรียกสินค้าที่เป็นของเล่นสำหรับเด็กในอเมริกา คืนทั้งหมดเมื่อปีก่อน หลังจากที่พบการปนเปื้อนของสารตะกั่วในสีที่ใช้ในของเล่นซึ่งมีปริมาณ มากกว่าที่กำหนดไว้ถึง 180 เท่า และเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ ก็พบว่ามีเด็กทารกที่ล้มป่วยจากโรคนิ่วในไตถึงกว่าหกพันคน และมีสามคนที่เสียชีวิตจากสาเหตุเดียวกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการดื่มนมที่ปนเปื้อนสารเมลามีน

ปัญหา เรื่องการเจือสารเมลามีนในนมผง ได้ทำให้ทางการจีนต้องเร่งรีบตรวจสอบ โดยทางคณะรัฐมนตรีได้แถลงข่าวในตอนเช้าวันพุธ (17 ก.ย.) โดยระบุว่า ทั่วประเทศจีนมีบริษัทที่ทำการผลิตนมผงสำหรับเด็กทั้งสิ้น 175 แห่ง ซึ่งในขณะนี้ได้มีการหยุดการผลิตไปแล้ว 66 ที่ และจากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์จำนวน 491 รายการจากอีก 109 บริษัทที่เหลือ ผลปรากฏว่ามีสินค้าจำนวน 69 รายการจาก 22 บริษัทที่มีสารเมลามีนผสมอยู่ในสัดส่วนที่มากน้อยต่างกันออกไป
      
      ซึ่ง การการตรวจสอบในครั้งนี้พบว่า นมผงที่ผลิตจาก บริษัทซานลู่ ในสือเจียจวงมีปริมาณสารเมลามีนที่สูงมาก โดยในสินค้าที่มีมากที่สุดมีถึง 2,563 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในขณะที่สินค้าตัวอื่นๆอยู่ที่ 0.09 – 619 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม


เมลามีน

 




          ไฟฟ้าแรงสูง คือ ระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าระหว่างสายไฟฟ้าสูงเกินกว่า 1,000 โวลต์ขึ้นไป  ระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงจะสามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปได้ในระยะทางที่ไกล และมีการสูญเสียทางไฟฟ้าต่ำกว่าระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าต่ำ ดังนั้นการส่งกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ จึงต้องส่งด้วยระบบไฟฟ้าแรงสูงแทบทั้งสิ้น 

          เนื่องจากไฟฟ้าแรงสูงมีแรงดันไฟฟ้าที่สูงมากเมื่อเทียบกับไฟฟ้าแรงต่ำที่ใช้ กับเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้านทั่วไป (220 โวลต์) ไฟฟ้าแรงสูงจึงสามารถที่จะกระโดดข้ามอากาศ หรือฉนวนไฟฟ้าเข้าหาวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตได้โดยไม่ต้องสัมผัสหรือแตะสายไฟ  หากวัตถุนั้นอยู่ภายในระยะอันตรายที่ไฟฟ้าแรงสูงสามารถกระโดดข้ามได้ ระยะอันตรายนี้จะขึ้นอยู่กับระดับแรงดันไฟฟ้าของไฟฟ้าแรงสูง โดยแรงดันยิ่งสูงระยะที่ไฟฟ้าสามารถกระโดดข้ามได้ก็จะยิ่งไกล ไฟฟ้าแรงสูงจึงมีอันตรายมาก ซึ่งสถิติผู้ได้รับอันตรายจากไฟฟ้าแรงสูงในเขตบริการของการไฟฟ้านครหลวงนั้น มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และทุพพลภาพ ประมาณปีละเกือบ 100 คน




          โทรเลข (telegraph) เป็นอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้แม่เหล็กไฟฟ้า ผู้ประดิษฐ์คนแรกคือ แซมมวล มอร์ส ชาวอเมริกัน โดยได้คิดรหัสโทรเลขเป็นจุดและขีดเพื่อใช้ในการสื่อสารโทรเลข จนถึงปี พ.ศ. 2387  แซมมวล มอร์ส ได้สร้างสายโทรเลขระหว่างเมืองบัลติมอร์กับวอชิงตันขึ้นเป็นครั้งแรกมีระยะ ทางยาวถึง 64 กิโลเมตร ทำการส่งโทรเลขเป็นจุดและขีด ถือเป็นการเริ่มต้นการสื่อสารโทรเลขอย่างจริงจัง และขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย หลังจากนั้นการสื่อสารโทรเลขได้ถูกพัฒนาขึ้นมา ทั้งอุปกรณ์ในการสื่อสารโทรเลข ระบบที่ใช้งาน และเทคโนโลยีใหม่ๆ ของการสื่อสารโทรเลข เช่นโทรพิมพ์ และเทเล็กซ์ เป็นต้น

          โทรเลข คือ ระบบโทรคมนาคมซึ่งใช้อุปกรณ์ทางไฟฟ้าส่งข้อความจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เดิมส่งโดยอาศัยสายตัวนำที่โยงติดต่อถึงกัน และอาศัยอำนาจแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นหลักสำคัญ แต่ระยะหลังมีการใช้วิธีการส่งไร้สาย ที่เรียกว่า วิทยุโทรเลข (radio telegraph , wireless telegraph หรือ continuous wave ย่อว่า CW)

          หลักการทำงานของโทรเลข เมื่อกดดันเคาะของเครื่องส่งเกิดวงจรปิด   กระแสไฟฟ้าทำให้เกิดอำนาจแม่เหล็กรอบขดลวดในเครื่องรับ  อำนาจแม่เหล็กจะดูดแม่เหล็กมากระทบแกนเหล็ก  ทำให้เกิดเสียงจังหวะเดียวกับที่กดคันเคาะ   โดยเคาะให้เกิดเสียงเป็นรหัส  จึงต้องมีการแปลสัญญาณโทรเลขเป็นสัญญาณข้อความ

         


โทรเลข (telegraph)




          ปรากฏการณ์วินด์ เชียร์ ยังเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดหลุมอากาศ หรือฟ้าร้องฟ้าผ่าอย่างรุนแรง

          ปรากฏการณ์วินด์ เชียร์ (Wind shear) มีอันตรายต่อเครื่องบินอย่างไร ?

         ปรากฏการณ์วินด์ เชียร์ (Wind shear) คือการเปลี่ยนแปลงความเร็วและ/หรือทิศทางของลมในระยะสั้นๆ(ฉับพลัน) สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแนวนอนนและแนวตั้งหรือเกิด พร้อมๆกันทั้งสองแนวบางครั้งเกิดร่วมกับปรากฎการณ์อุณหภูมิผกผันในระดับต่ำ วินเชียร์เกิดขึ้นได้ทุกระดับความสูงโดยทำให้เกิด การเคลื่อนที่ของลมเป็นวงกลม (Eddies)  ทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างรุนแรงตามความรุนแรงของวินเชียร์ วินเชียร์ที่กระทบกระเทือน และเป็นอันตรายมากต่อการบินได้แก่วินเชียร์ที่เกิดขึ้นในระดับต่ำๆ ซึ่งสูงจากทางวิ่งของสนามบินไม่เกิน 500 เมตร เป็นวินเชียร์ที่เกิดขึ้นในระดับต่ำๆ ใกล้กับทางวิ่งของสนามบิน

          วินเชียร์เกิดจากการเคลื่อนที่ของอากาศในบรรยากาศชั้นหนึ่งเคลื่อนผ่าน บรรยากาศชั้นหนึ่งที่อยู่ติดๆกันซึ่งมีตั้งแต่ขนาด เล็กๆที่เกิดจากลมกระโชกแรงๆจนถึงการไหลของมวลอากาศขนาดใหญ่ โดยเกิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมากกว่าเกิดร่วมกันเช่นพายุฟ้าคะนอง แนวปะทะอากาศ ลมทะเลฯลฯ ซึ่งวินเชียร์ที่เป็นอันตรายต่อการบินบ้านเราจะเกิดจากพายุุ ฟ้าคะนองเท่านั้น การตรวจวินเชียร์เป็นการเตือนภัยไม่ให้เครื่องบินเข้าไปในบริเวณที่เป็นวิ นเชียร์ซึ่งจะถูกโยนตัวขึ้น-ลง จนนักบินไม่สามารถ ควบคุมเครื่องได้ ถ้ารุนแรงมากชิ้นส่วนของเครื่องบินอาจฉีกขาด ทำให้เครื่องตกได้



ปรากฏการณ์วินด์ เชียร์ (Wind shear)

 

 

 

"สมองซีกซ้่าย และสมองซีกขวา"

 

 

         สมองคนเรามีอยู่ 2 ซีก มีลักษณะคล้ายๆกัน สมองซีกซ้ายทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกายซีกขวา และสมองซีกขวาทำหน้าที่ควบคุมการทำงายของร่างกายซีกซ้าย

สมอง ซีกซ้ายเป็นส่วนที่คิดและมีการทำงานให้ออกมาเป็นรูปธรรม เช่น การนับจำนวน การบอกเวลา การสรรหาถ้อยคำ การยกหาเหตุผล กฎเกณฑ์การวิเคราะห์ การวางแผน พูดคุย ให้เหตุผล วางกฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัวต่างๆ

สมอง ซีกขวาทำหน้าที่จินตนาการ ใฝ่ฝัน สร้างสรรค์ ความคิดแปลกๆใหม่ๆ การซึมซาบในดนตรีและศิลปะ ซึ่งความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ของคนเราเกิดจากการทำงานของสมองซีกขวานี่เอง

สมอง แต่ละซีกรับรู้ความเป็นไปของโลกภายนอกผ่านทางอวัยวะรับรู้ต่างๆทางประสาทชุด เดียวกัน แต่สมองทั้ง2ส่วนทำงานแตกต่างกันอย่างมาก ขณะที่สมองซีกซ้ายทำหน้าที่พูดคุย ให้เหตุผล วางกฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัวต่างๆ สมองซีกขวากำลังซึมซาบอยู่ในโลกของความคิด และจินตนาการที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกาลเวลาเหมือนกับการทำงานของศิลปินหรือ นักคิดขณะที่กำลังเผลิดเผลินอยู่กับการทำงาน หรือจินตนาการของตัวเอง จนไม่ทราบเลยว่าเวลาได้ผ่านล่วงเลยไปนานเท่าใดแล้ว

คนเรามีสมอง 2 ซีก ที่ทำหน้าที่แตกต่างกันอย่างเด่นชัดในการรับรู้ความเป็นไปของสิ่งต่างๆรอบตัว

ความ กลัวที่มีศูนย์กลาง(tercher center)เน้นคำตอบจากตำราเป็นคำตอบที่ถูกต้องของปัญหาต่างๆ ซึ่งมาจากผู้สอนหรือตำรา โดยไม่เปิดโอกาสให้คิดอะไรที่แตกต่างไปจากคำตอบ ทำให้เกิดความกลัว กลัวคำตอบแปลกๆใหม่ๆ ที่เกิดจากสมองของเราเอง ทั้งๆที่สิ่งที่เราคิดขึ้นเองนั้นเป็นสิ่งที่วิเศษทีุ่สุดก็ได้ พฤติกรรมการเรียนเช่นว่านี้เป็นการทำลายสมองซีกขวาอย่างสิ้นเชิง

เป็น ที่ยอมรับกันแล้วว่างานค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ งานสร้างสรรค์ทางศิลปะ ความคิดแปลกๆใหม่ๆ(ทางดีและสร้างสรรค์) ล้วนแล้วแต่เกิดจากการทำงานของสมองซีกขวา แต่ความสร้างสรรค์ของสมองซีกขวาจะสามารถแสดงออก ถ่ายทอดให้ผู้อื่นทราบได้ต้องเกิดจากการรวบรวม วิเคราะห์ และหาถ้อยคำของสมองซีกซ้ายเท่านั้น

การพัฒนาสมองทั้งสองด้านควบคู่กันอย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น...

 

 

 

มันสมอง

       มนุษย์ เมื่อแรกเกิดมาเป็นคนดี ไม่ว่ามีชาติกำเนิดหรือวงษ์ตระกูลอย่างไร ความโง่ ความฉลาด เป็นสิ่งที่สามารถเพาะปลูกได้ด้วยการฝึกอบรม ฝึกฝนชักจูงไปในสิ่งที่ทำให้เฉลียวฉลาด ปราดเปรื่อง

คนเรา เกิดมามีมันสมองเปรียบประดุจผ้าสีขาวหรือกระดาษสีขาว ซึ่งสุดแล้วแต่เราจะหยดสีอะไรลงไป ผ้าขาวหรือกระดาษจะเป็นสีนั้น ๆ เช่นกันมันสมองเป็นสิ่งที่สามารถเพาะปลูกได้ จะได้ผลมากหรือน้อย สุดแต่เราจะปลูกมันสมองของเราเอง

มันสมองดี

คน ที่มีมันสมองดี หรือคนที่คิดอะไรได้รวดเร็วเป็นลักษณะของมันสมองดี แต่ความคิดที่รวดเร็วเท่านั้นยังไม่พอ คนที่คิดเร็วแต่คิดผิดมีมาก หรือคิดเร็ว คิดถูก แต่ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ตามที่คิด ซึ่งก็เป็นเพียงแต่ความฝัน

ผู้ที่มีมันสมองที่ดี ประกอบด้่วย

1.คิดเร็ว 2.คิดถูก 3.ทำได้สำเร็จตามคิดนั้น

สุดแล้วแต่ความสามารถของเราที่จะคิด "บางคนกำหนดวงกว้าง คิดไกล บางคนกำหนดวงแคบ คิดใกล้ บางคนไม่เคยกำหนด ไม่คิด"

คนสมองดีนั้น สามารถทำความสำเร็จให้แก่่ตนเองโดยไม่ใช้สุรา หรือยาเสพติดมาช่วย สิ่งเหล่านี้ไม่ใ่ช่้สิ่งที่ทำให้สมองดี

คน ที่มีมันสมองที่ดีต้องเป็นคนอดทน ทำงานได้มาก การคิดอะไีรได้รวดเร็วที่สุด ถูกต้องที่สุด และทำสำเร็จได้ดีที่สุดแล้ว แต่มันสมองทนไม่ได้นาน เจองานยาก ๆ หรือคิดอะไรมาก ๆ เข้าสัก 2-3 ชั่วโมงรู้สึกอ่อนเพลีย ปวดศรีษะ หรือฉุนเฉียวบันดาลโทษะ หรือสติวิปลาสก็มี แต่คนที่มัีนสมองดี อาจทำอะไรๆ และคิดอะไรได้มากที่สุด โดยสมองไม่เหน็จเหนื่อยง่ายๆเลย การวินิจฉัยคนว่าดี หรือไม่ดีนั้น ดูว่า"คนนั้นได้เคยทำอะไำรสำเร็จมาบ้าง"

มัีนสมองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

การ ใช้กำลังทางกายเพียงอย่างเดียวยังไม่ทำให้เราประสบผลสำเร็จ หากต้องใช้กำลังความคิดอีกอย่างหนึ่งประกอบกันด้วย ถ้าเราฝึกฝนมันสมองของเราให้ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น แข็งแรงขึ้น เราจะสามารถเพิ่มศักยภาพของความคิดและการทำงานได้อีกเท่าหนึ่ง...

 

 

 

 

 

รู้ทัน...

ไขมัน คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์

        ไขมัน มีประโยชน์ช่วยให้ร่างกายดูดซึม วิตามิน เอ ดี อี และ เค มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็นสำหรับผิวหนัง และกลไกควบคุมการทำงานต่าง ๆ และเิพิ่มรสชาติอาหาร ไขมันประกอบด้วยกรดไขมัน 2 ชนิดหลัก ๆ คือกรดไขมันอิ่มตัว มีมากในไขมันสัตว์และกรดไขมันไม่ิอิ่มตัว มีมากในน้ำมันพืช ยกเว้นน้ำำ้มันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม ที่เป็นน้ำมันพืชแต่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง

       ไขมันที่ควรลด คือ ไขมันอิ่มตัวจากเนื้อสัตว์และอาหารประเภทนมในปริมาณมากๆ จะเพิ่มระดับคอเลสตรอรอลในเลือดและความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ไขมันแต่ละชนิดจะมีปริมาณคอเลสเตอรอลต่างกัน

ไขมัน ไม่อิ่มตัวมีกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองเรียกว่า กรดไขมันจำเป็นมี 2 ตระกูลคือ ตระกูลโอเมก้า-3 ได้จากกรดไนโนเลนิก พบในน้ำมันพืชบางชนิดเช่น น้ำมันถั่วเหลือง และปลาที่มีมันมาก เช่นปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาจะละเม็ด ปลาช่อน ปลาสำลี ฯลฯ และตระกูลโอเมก้า-6 ได้จากกรดไลโนเลอิก พบในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันคำฝอย น้ำมันทานตะวัน

ร่าง กายต้องการกรดไขมันโอเมก้า-3 วันละ 1-2 กรัม ซึ่งหาได้จากน้ำมันถั่วเหลือง 1-2 ช้อนชา สามารถป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด และรักษาโรคหัวใจ ส่วนกรดไขมันโอเมก้า-6 ร่างกายต้องการวันละ 4 กรัม (เท่ากับได้จากน้ำมันทานตะวัน 2 ช้อนชา)

การกิน ไขมันไม่อิ่มตัวที่มีอยู่ตามธรรมชาติทั้งชนิดตำแหน่งเดียว เช่น จากน้ำมันมะกอกและชนิดหลายตำแหน่ง เช่น จากน้ำมันทานตะวัน จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ไขมันไม่อิ่มตัวเหล่านี้ยังเป็นแหล่งของวิตามินอี ซึ่งอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและภาวะผนังหลอดเลือดแข็งอีกดวย

การกิน นำ้มันปลามากๆ ซึ่งมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตระกูลโอเมก้า-3 ยังอาจช่วยป้องกันมะเร็งที่เต้านม ลำไส้ และตับอ่อน ระเร็งเหล่านี้มักเป็นผลมาจากโรคอ้วนและการบริโภคไขมันอิ่มตัวมากเกินไป

คอเลสเตอรอล มีลักษณะคล้ายแว็กช์เป็นสารที่มีลักษณะคล้ายไขมัน ซึ่งเราจะพบคอเลสเตอรอลได้ในทุกเซลล์ของร่างกาย ปกติคอเลสเตอรอลร่างกายได้รับมาจาก 2 แหล่ง คือร่างกายสร้างขึ้นเองและได้รับจากอาหาร ร่างกายเราต้องการคอเลสตอรอลเพื่อให้การทำงานของเซลล์ต่างๆ และร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล ร่างกายใช้คอเลสเตอรอลในการผลิตฮอร์โมน วิตามีนดีและสารบางอย่างที่ช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารดีขึ้น เช่น กรดน้ำดี เพื่อช่วยในการย่อยไขมัน

เลือดมีลัีกษณะเป็นน้ำ ส่วนคอเลสเตอรอลจะคล้ายไขมัน ดัง นั้นจึงเหมือนน้ำกับน้ำมันที่ไม่สามารถผสมรวมกันได้ และเพื่อให้คอเลสเตอรอลขนส่งทางกระแสเลือดได้ คอเลสเตอรอลจะถูกขนส่งอยู่ในรูปไลโปโปรตีน ซึ่งไลโปโปรตีนนี้จะประกอบด้วยไขมันอยู่ด้านในและโปรตีนจะอยู่ด้านนอก ร่างกายมีไลโปโปรตีน 2 ชนิด ขนส่งคอเลสเตอรอล คือ

Low density lipoprotein (LDL)หรือ เรียกว่า คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี การที่ร่างกายมีคอเลสเตอรอลชนิดนี้อยู่สูงจะทำให้เกิดการสะสมของคอเลเตอร อลที่เส้นเลือดหัวใจ ทำให้เกิดเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้

High density lipoprotein (HDL) หรือ เรียกว่า คอเลสเตอรอลชนิดดี โดยคอเลสเตอรอลชนิดนี้จะขนส่งคอเลสเตอรอลจากส่วนต่างๆ ของร่างกายกลับมาที่ตับ ซึ่งตับจะเป็นอวัยวะที่กำจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินของร่างกายการมีระดับคอเล สเตอรอลชนิดดีสูงจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้

อาจ อาจกล่าวได้วา เอช ดี แอล ยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งดีต่อร่างกาย วิธีเพิ่ม เอช ดี แอล หรือคอเลสเตอรอลชนิดดี คือ การออกกำลังกาย การหลีกเลี่ยงภาวะเครียด จะช่วยให้ร่างกายสร้าง เอช ดี แอล และวิธีลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีคือการรับประทานผักและใยอาหาร จะช่วยดูดซึมคอเรสเตอรอลชนิดไม่ดีออกมา

ไตรกลีเซอไรด์ เพื่อนสนิทของคอเลสเตอรอล คือ ไตรกลีเซอไรด์เป็นรูปแบบของไขมันที่ร่างกายย่อยแล้่วส่งเข้าสู่กระแสเลือด ถ้าวัดระดับไตรกลีเซอไรด์หลังอาหารจะพบว่ามีระดับสูงขึ้น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากจะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด สูงขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้การกินอาหารจำพวกแป้งหรือผลไม้รสหวานมากๆ จะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง

จาก การศึกษาพบว่า การเพิ่มของระดับไตรกลีเซอไรด์ มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด

 

 


"การทำสมาธิ"

การทำสมาธิ คือ การหยุดการทำงานของจิตใต้สำนึก(หยุดการทำงานของสมองซีกซ้าย) ที่มีหน้าที่สะสมข้อมูล ความจำ การหาเหตุผล และถ้อยคำ จิตเหนือสำนึกของผู้ทำสมาธิจะค่อยๆ ทำงานทีละน้อย ผู้ทำสมาธิหยุดการทำงานของจิตใต้สำนึกอย่างง่ายๆ โดยการท่องคำ 2 พยางค์(ที่เลือกสรรไว้) อยู่ในใจให้สอดคล้องกับจังหวะการหายใจเข้าออก ทำให้เกิดความสุขแก่จิตใจอย่างมากมาย ประกอบกับการหายใจอย่างมีจังหวะจะสามารถสยบความคิดอันวุ่นวายจากจิตใต้สำนัก ได้เป็นอย่างดี ในไม่ช้าพลังจิตอันมหาศาลอันเกิดจากจิตใจที่ผู้ทำสมาธิให้เข้าสู่จิตเหนือ สำนึก ที่ผู้ปฏิบัติหยั่งรู้เอง ไม่ได้มาจากตำราหรือการรับฟังจากผู้อื่น มีความสุขความปลื้มปีติอันยิ่งใหญ่ของจิตใจ

ประโยชน์ของการทำสมาธิ

การทำ สมาธิอย่างถูกต้อง จะมีประโยชน์มหาศาลในทุกๆด้านของชีิวิต ทำให้มีความคิดอ่านที่แจ่มใส ตื่นตัวกับการทำงาน มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และที่สำคัญรู้สึกมีความสุขในชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม

การทำสมาธิจะมีความเครียดลดลงและมีความเจ็บป่วยน้อยลง

การมีสมาธิ=Comcentration

การทำสมาธิ=Meditation

ประโยชน์ ที่ผู้ทำสมาธิส่วนมากได้รับคือ การมีสมาธิ*ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน การทำสมาธิ* เป็นประจำสม่ำเสมอทำให้ผู้ทำสมาธิมีจิตใจจดจ่อกับงานที่กำลังทำอยู่โดยไม่ ใส่ใจกับสิ่งเร้ารอบข้างหรือความคิดอื่นๆ ที่คอยเข้ามารบกวนใจจิตใจ มีความผ่อนคลายมากขึ้น ตื่นตัวมากขึ้น และสามารถใช้้สมองได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าที่เคย

การสามารถควบคุมจิตใจตนเองให้มีสมาธิได้เป็นอย่างดีจะสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย

ผลการ ศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากแสดงถึงผลสรุปที่ไม่สามารถโต้แย้งได้เลย ว่า การทำสมาธิโดยใช้้หลักวิทยาศาสตร์มีคุณประโยชน์มากมายมหาศาลในหลายๆด้าน เช่นทำให้สุขภาพด้านร่างกายดีขึ้น จิตใจมั่นคงขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์สูงขึ้น มีความหยั่งรู้เองมากขึ้น และทำให้จิตใจสงบเยือกเย็นมีความสุขมากขึ้น

การรู้จักทำำสมาธิให้ิเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ิิง..

 

 

สุนทรภู่

   พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สุนทรภู่ (26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 - พ.ศ. 2398) เป็นกวีชาวไทยที่มีชื่อเสียง ได้รับยกย่องเป็น เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย[1] เกิดหลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ 4 ปี และได้เข้ารับราชการเป็นกวีราชสำนักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อสิ้นรัชกาลได้ออกบวชเป็นเวลาร่วม 20 ปี ก่อนจะกลับเข้ารับราชการอีกครั้งในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเป็นอาลักษณ์ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พระสุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร ซึ่งเป็นตำแหน่งราชการสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต

    สุนทรภู่เป็นกวีที่มีความชำนาญทางด้านกลอน ได้สร้างขนบการประพันธ์กลอนนิทานและกลอนนิราศขึ้นใหม่จนกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางสืบเนื่องมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ผลงานที่มีชื่อเสียงของสุนทรภู่มีมากมายหลายเรื่อง เช่น นิราศภูเขาทอง นิราศสุพรรณ เพลงยาวถวายโอวาท กาพย์พระไชยสุริยา และ พระอภัยมณี เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่อง พระอภัยมณี ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่า เป็นยอดของวรรณคดีประเภทกลอนนิทาน และเป็นผลงานที่แสดงถึงทักษะ ความรู้ และทัศนะของสุนทรภู่อย่างมากที่สุด งานประพันธ์หลายชิ้นของสุนทรภู่ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการ เรียนการสอนนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เช่น กาพย์พระไชยสุริยา นิราศพระบาท และอีกหลายๆเรื่อง

      ปี พ.ศ. 2529 ในโอกาสครบรอบ 200 ปีชาตกาล สุนทรภู่ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้ เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม ผลงานของสุนทรภู่ยังเป็นที่นิยมในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมาไม่ขาดสาย และมีการนำไปดัดแปลงเป็นสื่อต่างๆ เช่น หนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ เพลง รวมถึงละคร มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไว้ที่ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง บ้านเกิดของบิดาของสุนทรภู่ และเป็นที่กำเนิดผลงานนิราศเรื่องแรกของท่านคือ นิราศเมืองแกลง นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์แห่งอื่นๆ อีก เช่น ที่วัดศรีสุดาราม ที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดนครปฐม วันเกิดของสุนทรภู่คือวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็น วันสุนทรภู่ ซึ่งเป็นวันสำคัญด้านวรรณกรรมของไทย มีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณและส่งเสริมศิลปะการประพันธ์บทกวีจากองค์กรต่างๆ โดยทั่วไป

 

 

ต้นตระกูล

       บันทึกส่วนใหญ่มักระบุถึงต้นตระกูลของสุนทรภู่เพียงว่า บิดาเป็นชาวบ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มารดาเป็นชาวเมืองอื่น ทั้งนี้เนื่องจากเชื่อถือตามพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรื่อง ชีวิตและงานของสุนทรภู่ ต่อมาในภายหลัง เมื่อมีการค้นพบข้อมูลต่างๆ มากยิ่งขึ้น ก็มีแนวคิดเกี่ยวกับต้นตระกูลของสุนทรภู่แตกต่างกันออกไป นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า ฝ่ายบิดาเป็นชาวบ้านกร่ำ เมืองแกลง จริง เนื่องจากมีปรากฏเนื้อความอยู่ใน นิราศเมืองแกลง ถึงวงศ์วานว่านเครือของสุนทรภู่ แต่ความเห็นเกี่ยวกับตระกูลฝ่ายมารดานี้แตกออกเป็นหลายส่วน ส่วนหนึ่งว่าไม่ทราบที่มาแน่ชัด ส่วนหนึ่งว่าเป็นชาวฉะเชิงเทรา และส่วนหนึ่งว่าเป็นชาวเมืองเพชร ก.ศ.ร. กุหลาบ เคยเขียนไว้ในหนังสือ สยามประเภท ว่า บิดาของสุนทรภู่เป็นข้าราชการแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ชื่อขุนศรีสังหาร (พลับ)  ข้อมูลนี้สอดคล้องกับบทกวีไม่ทราบชื่อผู้แต่งซึ่ง ปราโมทย์ ทัศนาสุวรรณ พบที่อนุสาวรีย์สุนทรภู่ จ.ระยอง ว่าบิดาของสุนทรภู่เป็นชาวบ้านกร่ำ ชื่อพ่อพลับ ส่วนมารดาเป็นชาวเมืองฉะเชิงเทรา ชื่อแม่ช้อย ทว่าแนวคิดที่ได้รับการยอมรับกันค่อนข้างกว้างขวางคือ ตระกูลฝ่ายมารดาของสุนทรภู่เป็นชาวเมืองเพชร สืบเนื่องจากเนื้อความใน นิราศเมืองเพชร ฉบับค้นพบเพิ่มเติมโดย อ.ล้อม เพ็งแก้ว เมื่อ พ.ศ. 2529

  วัยเยาว์

สุนทรภู่ มีชื่อเดิมว่า ภู่ เกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช 1148 เวลาเช้า 2 โมง (ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329) ณ บริเวณด้านเหนือของพระราชวังหลัง ซึ่งเป็นบริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยปัจจุบัน นี้ เชื่อว่าหลังจากสุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าร้างกัน บิดาออกไปบวชอยู่ที่วัดป่ากร่ำอันเป็นภูมิลำเนาเดิม ส่วนมารดาได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังหลัง ถวายตัวเป็นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล พระธิดาในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ดังนั้นสุนทรภู่จึงได้อยู่ในพระราชวังหลังกับมารดา และได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลัง สุนทรภู่ยังมีน้องสาวต่างบิดาอีกสองคน ชื่อฉิมและนิ่ม

เชื่อกันว่า ในวัยเด็กสุนทรภู่ได้ร่ำเรียนหนังสือกับพระในสำนักวัดชีปะขาว (ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานนามในรัชกาลที่ 4 ว่า วัดศรีสุดาราม อยู่ริมคลองบางกอกน้อย) ตามเนื้อความส่วนหนึ่งที่ปรากฏใน นิราศสุพรรณ ต่อมาได้เข้ารับราชการเป็นเสมียนนายระวางกรมพระคลังสวน ในกรมพระคลังสวน แต่ไม่ชอบทำงานอื่นนอกจากแต่งบทกลอน ซึ่งสามารถแต่งได้ดีตั้งแต่ยังรุ่นหนุ่ม จากสำนวนกลอนของสุนทรภู่ เชื่อว่าผลงานที่มีการประพันธ์ขึ้นก่อนสุนทรภู่อายุได้ 20 ปี (คือก่อนนิราศเมืองแกลง) เห็นจะได้แก่กลอนนิทานเรื่อง โคบุตร

สุนทรภู่ลอบรักกับนางข้าหลวงในวังหลังคนหนึ่ง ชื่อแม่จัน ชะรอยว่าหล่อนจะเป็นบุตรหลานผู้มีตระกูล จึงถูกกรมพระราชวังหลังกริ้วจนถึงให้โบยและจำคุกคนทั้งสอง แต่เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. 2349 จึงมีการอภัยโทษแก่ผู้ถูกลงโทษทั้งหมดถวายเป็นพระราชกุศล หลังจากสุนทรภู่ออกจากคุกก็เดินทางไปหาบิดาที่เมืองแกลง จังหวัดระยอง การเดินทางครั้งนี้สุนทรภู่ได้แต่ง นิราศเมืองแกลง พรรณนาสภาพการเดินทางต่างๆ เอาไว้โดยละเอียด และลงท้ายเรื่องว่า แต่งมาให้แก่แม่จัน "เป็นขันหมากมิ่งมิตรพิสมัย" ในนิราศได้บันทึกสมณศักดิ์ของบิดาของสุนทรภู่ไว้ด้วยว่า เป็น "พระครูธรรมรังษี" เจ้าอาวาสวัดป่ากร่ำ กลับจากเมืองแกลงคราวนี้ สุนทรภู่จึงได้แม่จันเป็นภรรยา

แต่กลับจากเมืองแกลงเพียงไม่นาน สุนทรภู่ต้องติดตามพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ในฐานะมหาดเล็ก ตามเสด็จไปในงานพิธีมาฆบูชา ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2350 สุนทรภู่ได้แต่ง นิราศพระบาท พรรณนาเหตุการณ์ในการเดินทางคราวนี้ด้วย

สุนทรภู่กับแม่จันมีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อหนูพัด ได้อยู่ในความอุปการะของเจ้าครอกทองอยู่ ส่วนหนุ่มสาวทั้งสองมีเรื่องระหองระแหงกันเสมอ จนภายหลังก็เลิกรากันไป

หลังจาก นิราศพระบาท ที่สุนทรภู่แต่งในปี พ.ศ. 2350 ไม่ปรากฏผลงานใดๆ ของสุนทรภู่อีกเลยจนกระทั่งเข้ารับราชการในปี พ.ศ. 2359

 

 

 

เรื่องของ "โลก" ในมุมที่คุณไม่รู้



 

           โลกเกือบกลมใบนี้ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่เมื่อประมาณ 4,540 ล้านปีก่อน ในฐานะดาวเคราะห์ดวงหนึ่งของระบบสุริยะ (Solar system) ที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง โลกมีสารพัดเรื่องราวให้มนุษย์ได้ศึกษาทำความเข้าใจกันอย่างไม่มีวันจบสิ้น หลายๆ เรื่องราว หลายๆ ข้อมูลเป็นสิ่งที่เราอาจไม่เคยรู้หรือแทบจะนึกไม่ถึงมาก่อน แต่ถ้าได้ลองเก็บมานั่งทบทวนดูแล้ว เราจะพบความมหัศจรรย์ของโลกใบนี้ได้อีกมากเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นเรื่องดังต่อไปนี้

ลักษณะกายภาพ


          1. เริ่มกันตั้งแต่ขนาดของโลกก่อน โลก (Earth) มีเส้นรอบวงตามแนวนอน 40,075 กิโลเมตร และเส้นรอบวงตามแนวตั้ง 40,008 กิโลเมตร ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของดาวเคราะห์ทั้งหมดในระบบสุริยะ แต่เล็กกว่าดวงอาทิตย์ถึง 100 เท่า ถ้าเราไม่มีเงินไปเที่ยวรอบโลก ให้เดินทางจากเหนือสุดถึงใต้สุดของประเทศไทย 20 ครั้ง ก็จะเท่ากับเดินทางรอบโลก 1 รอบพอดี

          2. ถ้าเอาโลกวางลงบนเครื่องชั่งน้ำหนัก (ที่เครื่องใหญ่พอ) ตัวเลขมวลของโลกที่จะแสดงออกมาก็คือ 5,973,600,000,000,000,000,000,000 กิโลกรัม หรือเขียนให้ง่ายขึ้นกว่าเดิมว่า 5.9736×1024 กิโลกรัม

          3. ใครที่บอกว่า "โลกกลม" คนนั้นผิด เพราะด้วยขนาดตามข้อแรก ทำให้โลกมีรูป "ทรงรี" ที่เกือบๆ จะเป็นทรงกลม แต่สมัยหนึ่งมนุษย์เคยถูกประหารชีวิต เพราะไม่ยอมเชื่อว่า "โลกแบน" คนที่เกือบจะเป็นหนึ่งในนั้นก็คือ กาลิเลโอ (Galileo Galilei) แต่โชคดีที่เขาฉลาดพอจะแกล้งสาบานว่าเชื่อเพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไปได้

          4. ส่วนใครที่บอกว่า "ก็โลกมันเอียง" คนนั้นพูดถูก เพราะแกนโลกเอียงทำมุมจากแนวดิ่ง (แนวตั้ง) ประมาณ 23.5 องศา ถ้านึกภาพไม่ออก ให้นึกว่าโลกเป็นลูกชิ้นปิ้งที่ถูกไม้เสียบอยู่กลางลูก แล้วเราถือไม้ให้มันเอียงจากแนวดิ่งไป 23.5 องศา โลกก็จะเอียงตามด้วยมุมที่เท่ากัน

          5. โลกหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็ว 1,674.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกว่าความเร็วสูงสุดของเครื่องบินโดยสารแอร์บัส A380 เสียอีก แต่เพราะขนาดของโลกมันใหญ่มากเมื่อเทียบกับขนาดตัวของเรา จึงทำให้เราไม่รู้สึกเลยว่าโลกกำลังหมุนอยู่ (ยกเว้นคนกำลังเมาเหล้า) ด้วยความเร็วขนาดนี้ทำให้โลกใช้เวลาหมุนรอบตัวเองหนึ่งรอบเท่ากับ 23 ชั่วโมง 56 นาที 4.09 วินาที แต่เพื่อไม่ให้วุ่นวายจึงต้องปัดเศษเป็น 24 ชั่วโมงเต็ม

          6. ไม่ใช่แค่หมุนรอบตัวเองเท่านั้น แต่โลกยังหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปด้วยพร้อมๆ กัน ที่ความเร็ว 107,218 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบเท่ากับ 365.24 วัน แต่ปัดเศษเหลือแค่ 365 วันเต็ม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมทุกๆ 4 ปี เดือนกุมภาพันธ์จะต้องมี 29 วัน ก็เพราะบวกเศษที่เหลืออีกปีละ 0.24 วัน รวมเข้าด้วยกันเป็นอีกหนึ่งวันนั่นเอง

          7. ทุกวันนี้โลกส่งแรงโน้มถ่วง 9.81 เมตรต่อวินาทีกำลังสอง มาดึงดูดเราเอาไว้ ในขณะที่ดาวพลูโตมีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่านั้นถึง 15 เท่า หมายความว่า ถ้าอยู่บนโลกเรากระโดดได้สูง 1 เมตร เมื่อไปอยู่บนดาวพลูโตเราจะกระโดดได้สูงถึง 15 เมตร

          8. จากแรงโน้มถ่วงดังกล่าวของโลก ทำให้เราต้องใช้จรวดที่มีความเร็วมากกว่า 40,269.60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้หลุดพ้นไปจากอิทธิพลของแรงโน้มถ่วง และพุ่งทะยานออกไปนอกโลกได้

          9. ถ้าผ่ากลางโลกออกเป็น 2 ซีกเหมือนผ่าแตงโม เราจะเห็นภายในโลกแบ่งเป็นชั้นใหญ่ๆ 3 ชั้น ชั้นบนสุดคือ "เปลือกโลก" (Crust) ที่เราอาศัยอยู่ มีความหนาประมาณ 30-50 กิโลเมตร ลึกลงไปเป็นชั้น "เนื้อโลก" (Mantle) ซึ่งก็คือชั้นของหินหนืดที่พุ่งขึ้นมาเป็นลาวาบนพื้นโลกเมื่อเกิดภูเขาไฟ ระเบิด ชั้นนี้มีความหนาประมาณ 3,000 กิโลเมตร มีอุณหภูมิประมาณ 800-4,300 องศาเซลเซียส ชั้นในสุดของโลกคือ "แกนโลก" (Core) หนาประมาณ 3,300 กิโลเมตร มีอุณหภูมิประมาณ 4,300-6,400 องศาเซลเซียส ส่วนประกอบหลักของชั้นนี้คือธาตุเหล็ก รอบนอกจะเป็นเหล็กเหลว แต่ส่วนในสุดที่เป็นแก่นกลางของโลกมีความหนาแน่นมหาศาล จนทำให้เหล็กเหลวกลายเป็นเหล็กแข็ง

          10. และที่พูดกันว่า โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น แท้ที่จริงแล้วในชั้นบรรยากาศของโลกมี "ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์" อยู่เพียง 0.038% ส่วนก๊าซที่มีอยู่มากที่สุดก็คือ "ก๊าซไนโตรเจน" ซึ่งมีถึง 78.08% ของ ชั้นบรรยากาศ รองลงมาก็คือ "ก๊าซออกซิเจน" 20.95% และ "ก๊าซอาร์กอน" 0.93% แต่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนแค่นี้ก็ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก จนนำมาสู่ภาวะโลกร้อนอย่างทุกวันนี้ได้แล้ว ส่วนประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดประจำปี พ.ศ.2549 แน่นอนต้องเป็นประเทศยักษ์ใหญ่อย่าง "จีน" (21.5%) ตามมาด้วย "สหรัฐอเมริกา" (20.2%) ซึ่งทิ้งห่าง "รัสเซีย" ที่ได้อันดับ 3 อย่างขาดลอย (5.5%) และ "ไทย" อยู่ในอันดับที่ 22 ของโลก (1.0%) เห็นกันหรือยังว่าใครคือตัวการหลักที่ทำให้สภาพอากาศโลกปั่นป่วนอยู่ในขณะ นี้

          11. โลกมีพื้นที่ผิว 510,072,000 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นน้ำประมาณ 71% (361,132,000 ตารางกิโลเมตร) ที่เหลืออีกประมาณ 29% (148,940,000 ตารางกิโลเมตร) เป็นพื้นดิน แต่ก็ใช่ว่าพื้นดินทั้งหมดมนุษย์จะสามารถอาศัยอยู่ได้ เพราะพื้นดินประมาณ 13,720,000 ตารางกิโลเมตร ที่เป็นทวีปแอนตาร์กติกา มีอากาศหนาวจัดจนไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างถาวร มีแต่พวกนักวิจัยจอมอึดเพียงประมาณพันคนเท่านั้นที่ทนอยู่ได้

          12. ถ้าเมื่อไรที่โลกขาดแคลนน้ำจืด "ทวีปแอนตาร์กติกา" (Antarctica) ตรงขั้วโลกใต้ สามารถช่วยเราได้ เพราะ พื้นที่ 98% ของทวีปแอนตาร์กติกาปกคลุมไปด้วยแผ่นน้ำแข็งที่หนาเฉลี่ยถึง 1.6 กิโลเมตร น้ำแข็ง 90% ของโลกมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ซึ่งมันสามารถสร้างน้ำจืดให้เราได้ถึง 70% ของปริมาณน้ำจืดที่มีในโลก แต่ข้อเสียอย่างเดียวก็คือ ถ้ามันละลายหมด น้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นเฉลี่ย 60 เมตร หรือสูงประมาณตึก 20 ชั้น เวลานั้นภาคอีสานบ้านเราก็จะมีชายฝั่งทะเลเป็นของตัวเองแล้ว


          13. อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวโลกอยู่ที่ 14 องศาเซลเซียส แต่ถ้าใครชอบอากาศหนาวๆ ต้องไปเที่ยวขั้วโลกใต้ เพราะที่ "สถานีวิจัยวอสต๊อก" (Vostok Station) ในทวีปแอนตาร์กติกา เคยวัดอุณหภูมิได้ต่ำที่สุดในโลกถึง - 89.2 องศาเซลเซียส วัดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2526 ส่วนอุณหภูมิที่สูงที่สุดบนพื้นผิวโลก คือ 57.8 องศาเซลเซียส ที่เมือง "อัลอซิซยา" (Al 'Aziziyah) ประเทศลิเบีย ในทวีปแอฟริกา วัดได้เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2465

          14. คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ายอดเขาที่สูงที่สุดของไทยคือ "ดอยอินทนนท์" แต่ยอดเขาที่สูงที่สุดของโลกอยู่ที่ยอดเขา "เอเวอเรสต์" (Everest) ประเทศเนปาล มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 8,848 เมตร ซึ่งต้องเอาดอยอินทนนท์ 3.5 ลูก มาต่อกันถึงจะได้ความสูงเท่านี้ และแน่นอนว่าจุดนี้คือจุดที่สูงที่สุดของโลกเราแล้ว

          15. สำหรับจุดที่ต่ำที่สุดของโลกอยู่ใน "ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา" (Mariana Trench) ในมหาสมุทรแปซิฟิก ใกล้กับ "เกาะกวม" (Guam) ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "ชาลเลนเจอร์ดีป" (Challenger Deep) รูปร่างหน้าตาเหมือนหุบเหวที่อยู่ใต้ท้องทะเล ก้นของหุบเหวนี้มีความลึกจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 10,923 เมตร ลึกกว่าความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์เสียอีก

          16. ผืนน้ำบนโลกนี้ถูกแบ่งออกเป็น 5 มหาสมุทร เรียงตามขนาดใหญ่ คือ "มหาสมุทรแปซิฟิก" (Pacific Ocean) "มหาสมุทรแอตแลนติก" (Atlantic Ocean) "มหาสมุทรอินเดีย" (Indian Ocean) "มหาสมุทรใต้" (Southern Ocean) และ "มหาสมุทรอาร์กติก" (Arctic Ocean) มหาสมุทรแปซิฟิกกินพื้นที่ถึง 169.2 ล้านตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็น 30% ของพื้นที่ผิวทั้งหมดของโลก ส่วนมหาสมุทรอาร์กติกกินพื้นที่เพียง 14.056 ล้านตารางกิโลเมตร ประเทศรัสเซียแค่ประเทศเดียวยังมีขนาดใหญ่กว่า

          17. ผืนดินบนโลกนี้ถูกแบ่งออกเป็น 7 ทวีป (ตามหลักเกณฑ์ที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา) เรียงตามขนาดใหญ่ คือ "ทวีปเอเชีย" (Asia) "ทวีปแอฟริกา" (Africa) "ทวีปอเมริกาเหนือ" (North America) "ทวีปอเมริกาใต้" (South America) "ทวีปแอนตาร์กติกา" (Antarctica) "ทวีปยุโรป" (Europe) และ "ทวีปออสเตรเลีย" (Australia) ทวีปเอเชียกินพื้นที่ถึง 43.82 ล้านตารางกิโลเมตร คิดเป็น 8.5% ของพื้นที่ผิวทั้งหมดของโลก แต่ทวีปออสเตรเลียกินพื้นที่แค่ 9,008,500 ตารางกิโลเมตร หรือ 1.7% ของพื้นที่ผิวทั้งหมดของโลก เล็กกว่ากันเกือบ 5 เท่าตัว




 โลก (Earth)  

              โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์เป็นวงโคจรซึ่งใช้เวลา 365.25 วัน  เพื่อให้ครบ 1 รอบ ปฏิทินแต่ละปีมี 365 วัน ซึ่งหมายความว่าจะมี 1/4 ของวันที่เหลือในแต่ละปี ซึ่งทุกๆปีสี่ปีจะมีวันพิเศษ คือจะมี 366 วัน กล่าวคือเดือนกุมภาพันธ์จะมี 29 วัน แทนที่จะมี 28 วันเหมือนปกติ ตามที่เคปเลอร์ค้นพบวงโคจรของโลกไม่เป็นวงกลม ในเดือนธันวาคมมันจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าเดือนมิถุนายน ซึ่งมันจะอยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์มากที่สุด โลกจะเอียงไปตามเส้นแกน ในเดือนมิถุนายน ซีกโลกเหนือจะเอียงไปทางดวงอาทิตย์ดังนั้น ซีกโลกเหนือจะเป็นฤดูร้อนและซีกโลกใต้จะเป็นฤดูหนาว ในเดือนธันวาคมจะเอียงจากดวงอาทิตย์ ทำให้ซีกโลกเหนือเป็นฤดูหนาวและซีกโลกใต้เป็นฤดูร้อน ในเดือนมีนาคมและกันยายน ซีกโลกทั้งสองไม่เอียงไปยังดวงอาทิตย์ กลางวันและกลางคืนจึงมีความยาวเท่ากัน ในเดือนมีนาคม ซีกโลกเหนือจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ และซีกโลกใต้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ในเดือนกันยายน สถานการณ์จะกลับกัน
               โลกมีอายุประมาณ 4,700 ปี   โลกไม่ได้มีรูปร่างกลมโดยสิ้นเชิง เส้นรอบวงที่เส้นศูนย์สูตรยาว 40,077 กิโลเมตร (24,903 ไมล์)และที่ขั่วโลกยาว 40,009 กิโลเมตร (24,861 ไมล์) 

 

           





   ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ จะมีฤดูกาลเป็นของตนเองและระยะของการโคจร ความยาวของปีดาวเคราะห์เป็นเวลาที่มันหมุนรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบ ถ้าคุณอยู่บนดาวพุธ ปีของคุณจะมีเพียง 88 วันของโลก บนดาวพูลโต ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่นอกสุดหนึ่งปีจะเท่ากับ 248 วันบนโลก

ดวงจันทร์
               ดวงจันทร์เป็นบริวารของโลก โคจรรอบโลกทุกๆ 27 วัน 8 ชั่งโมง และขณะเดียวกันก็หมุนรอบแกนตัวเองได้ครบหนึ่งรอบพอดีด้วย ทำให้เรามองเห็นดวงจันทร์ด้านเดียว ไม่ว่าจะมองจากส่วนไหนของโลก ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง มนุษย์เพิ่งจะได้เห็นภาพ เมื่อสามารถส่งยานอวกาศไปในอวกาศได้ บนพื้นผิวดวงจันทร์ร้อนมากในบริเวณที่ถูกแสงอาทิตย์ และเย็นจัดในวริเวณเงามืด ที่พื้นผิวของดวงจันทร์มีปล่องหลุมมากมาย เป็นหมื่นๆหลุม ตั้งแต่หลุมเล็กไปจนถึงหลุมใหญ่มีภูเขาไฟและทะเลทรายแห้งแล้ง
               ดวงจันทร์เป็นดวงดาวใหญ่ที่สุด  และสว่างที่สุดในท้องฟ้ากลางคืน  ดวงจันทร์ส่องแสง  แต่แสงที่ส่องนั้นมิได้เปล่งออกมาจากดวงจันทร์เอง  ดวงจันทร์เมื่อได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ก็จะสะท้อนแสงนั้นออกมา  ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุด  แต่ก็ยังเป็นระยะทางไกลมากคือ  ระยะสิบเท่าของเส้นรอบโลกยังสั้นกว่าระยะทางจากโลกไปดวงจันทร์

วัฏจักรของดวงจันทร์
                เราทราบแล้วว่า ถ้านับเดือนทางจันทรคติ แล้วดวงจันทร์จะโคจรรอบโลกหนึ่งรอบ กินเวลา 29 1/2 วัน ถ้าเรานับจุดเริ่มต้นของดวงจันทร์ที่วันเดือนดับ (New moon) เป็นช่วงที่ดวงจันทร์ อยู่เป็นเส้นตรงระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงจันทร์ทึบแสง คนบนโลกจึงมองไม่เห็นดวงจันทร์ แล้วก็เป็นวันข้างขึ้นทีละน้อย เราจะเห็นดวงจันทร์สว่างเป็นเสี้ยวทางขอบฟ้าตะวันตก และจะเห็นดวงจันทร์ขึ้นสูงจากขอบฟ้าทิศตะวันตก ไปทางทิศตะวันออก พร้อมกับมีเสี้ยวสว่างมากขึ้น พอถึงช่วงวันขึ้น 7-8 ค่ำ ดวงจันทร์จะสว่างครึ่งซีกอยู่ตรงกลางท้องฟ้าพอดี (Quarter) วันต่อมาจะเพิ่มเสี้ยวสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันขึ้น 14-15 ค่ำ ดวงจันทร์จะมาอยู่ตรงเส้น ระหว่างดวงอาทิตย์และโลก ทำให้ดวงจันทร์เกิดสว่างเต็มดวง (Full moon) หลังจากนั้นดวงจันทร์กลายเป็นข้างแรม ดวงจันทร์จะขึ้นช้าไปเรื่อยๆ จนหายไปในท้องฟ้าจะเห็นเดือนดับ แล้วก็เริ่มต้นใหม่ เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ การเกิดข้างขึ้นข้างแรม เนื่องจากดวงจันทร์โคจรรอบโลก 1 รอบ เท่ากับมันโคจรรอบตัวเอง 1 รอบพอดี ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ดังนั้นเราจึงเห็นดวงจันทร์เพียงซีกเดียวตลอดเวลา

Advertising Zone    Close


Online: 1 Visits: 5,790 Today: 3 PageView/Month: 23

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...